การดึงดูดความร่ำรวยที่พระพุทธเจ้าสอน




การดึงดูดความร่ำรวยที่พระพุทธเจ้าสอนไว้

ผมจะเปรียบเทียบคนเหมือนเครื่องรับวิทยุ
และผมจะบอกว่าความร่ำรวยมันก็มีความคลื่นความถี่ของมันเอง
ถ้ารับปรับคลื่นของตัวเราไม่ตรงกับความร่ำรวยแล้วก็จะยากที่ร่ำรวยได้

ผมหมายถึงว่าตัวเราเอง ต้องปรับคลื่นของตัวเองไปหาคลื่นนั้น
แล้วจะปรับได้ยังไง มันมีวิธีปรับ ครับ
และพระพุทธเจ้าก็ได้สอนมาให้เราแล้วกว่า 2500 ปี
เพียงแต่เราทำไม่ถูกวิธี คลื่นมันเลยไม่ตรงกันสักที
ทั้งๆที่คลื่นความโชคดีและความร่ำรวยนั้นล้วนอยู่รอบๆตัวเรา
ถ้าไปถามคนที่ร่ำรวยมากๆในตอนนี้เขาจะรู้เรื่องนี้กันทุกคนครับ

เตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อดึงดูดความร่ำรวย

ครูบาอาจารย์ตั้งแต่ในอดีต ท่านรู้เรื่องเหล่านี้ดี
ได้สั่งสอนเอาไว้ วิธีเตรียมตัวเองให้มีคุณสมบัติ
ที่จะรับความร่ำรวยได้แบบตลอดกาลมีวิธีการดังนี้


1.สร้างบุญใหม่ให้มากเข้าไว้

คงเคยได้ยินคนบ่นกันว่า "ชาตินี้บุญน้อย คงไม่ได้ร่ำรวยกับเขาเสียที"
คำตอบก็อยู่ในถามนั้นหละครับ บุญมีน้อยก็สร้างบุญใหม่ครับ
ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นเหตุผลกันเสมอ เราหว่านสิ่งใดลงดิน ก็จะได้สิ่งนั้นมา
คนใดไม่เคยทำบุญทำทาน ไม่เคยคิดช่วยเหลือผู้อื่น ไม่มีความเมตตากรุณา
ก็ยากที่จะร่ำรวยได้ เพราะ บุญ คือ ต้นกำเนิดแห่งความสุข ความเจริญ

การทำบุญนั้นไม่ว่าจะมากหรือน้อย ล้วนไม่ได้หายไปไหน
จะวนเวียนคอยหนุนเนื่องให้ผู้ที่ได้ทำบุญ ได้อานิสงค์แห่งบุญนั้นตลอดเวลา
ไม่ว่าที่เคยทำมาเมื่อ10หรือ20ปีก่อน ยังอยู่ครบแล้วออกดอกผลอยู่ตลอด
แต่มีสิ่งหนึ่งที่คอยกำหนดอยู่คือ "กรรมกำหนด"

เคยได้ยินเรื่อง "สามล้อถูกหวย" เพียงไม่กี่เดือนก็กลับมาถีบสาม้อเหมือนเดิม
เพราะเนื่องจากบุญเก่ามีมาก แต่บุญใหม่ไม่มี จึงส่งผลให้เงินที่ได้กลายเป็น "ทุกขลาภ"
คนจะรวยได้ต้องมีทั้งบุญเก่าและบุญใหม่ผสมกัน
แต่ขอให้ทุกท่านวางใจเถอะครับ พระพุทธเจ้าบอกไว้ด้วยว่า
การที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ถือได้ว่าทุกคนมีบุญมากกว่าเหล่า เดรฉานมากมายนัก
เพราะมีน้อยนักที่เราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์
เพราะโอกาสมีแค่เท่าทรายที่ปลายเล็บเมื่อเทียบกันเม็ดทรายทั้งโลก





2.การให้ทาน

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์พระศาสดานั้น
ได้ทรงสั่งสอนสัตว์โลกไว้ว่า ในการสร้างบุญที่ถูกวิธีนั้น
เรียกว่า “บุญกิริยาวัตถุ 10” มีอะไรบ้าง
ไล่ระดับตามผลแห่ง ทาน จากน้อยไปมากนะครับ

1.ด้วยการบริจาคทาน
2.ด้วยการรักษาศีล
3.ด้วยการภาวนา
4.ด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตน
5.ด้วยการช่วยขวนขวายทำในกิจที่ชอบ
6.ด้วยการเฉลี่ยส่วนความดีให้ผู้อื่น
7.ด้วยความยินดีในความดีของผู้อื่น
8.ด้วยการฟังธรรม
9.ด้วยการสั่งสอนธรรม
10.ด้วยการทำความเห็นให้ตรง

เห็นได้ว่าการบริจาคทานที่เป็นวัตถุทานนั้น ให้ผลน้อยที่สุด
เมื่อเทียบกับทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายถึงการบริจาคทานไม่ดีนะครับ
ทุกสิ่งที่ทำนี้ล้วนเป็นสิ่งดี ทำให้มากไว้ ล้วนมีประโยชน์ครับ
สร้างคลื่นแห่งบุญไว้ เพื่อรับคลื่นแห่งความร่ำรวย

การให้ทานไม่ว่าจะรูปแบบไหน นั้นคือ หัวใจแห่งความร่ำรวย
คนที่รู้จักการให้มาก ยิ่งให้จะยิ่งได้รับผลตอบแทน
เป็นกฎแห่งกรรมและกฎแห่งธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
เคล็ดลับที่สำคัญในการให้ทานนั้น มีอยู่แค่ 3 ประการ คือ

ทานนั้นบริสุทธิ์
หมายถึง วัตถุหรือเงินที่ซื้อวัตถุทานนั้นไม่ได้เบียดเบียนใครมา 
หรือเจตนาแห่งทานในส่วนอื่น มากจากความบริสุทธิ์ใจแห่งการให้ทาน

วัตถุทานนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากถึงจะได้บุญมากเสมอไป
ขอแค่ให้ที่มาของวัตถุทานนั้นบริสุทธิ์ ได้มาจากความตั้งใจชอบ
สำหรับการให้วัตถุทานนั้น มี 3 ประเภท
และมีอานิสงส์แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น

ทาสทาน หมายความว่า การให้ทานของที่เลวกว่าที่เรากิน หรือของที่เลวกว่าที่เราใช้
สหายทาน หมายความว่า การให้ทานของเสมอที่เรากินอยู่ หรือที่เราใช้อยู่
สามีทาน หมายความว่า การให้ทานของที่ดีกว่าที่เรากินที่เราใช้อยู่

มีเจ้าสัวท่านหนึ่งมีเงินนับร้อยล้าน แต่ด้วยความเป็นคนตระหนี่
ทุกวันจะไปซื้อเศษข้าวจากร้านข้าวต้มมาต้มกับเกลือกินทุกวัน
ด้วยความว่าราคามันถูกและความเสียดายตลอดเวลา
จนแกป่วยขึ้นมา ได้ไปนอนโรงพยาบาล
เมื่อลูกหลานมาเยี่ยมและซื้อผลไม้มาฝาก
ก็โกรธดุด่าว่า ใช้เงินไม่เป็น ซื้อมาทำไมให้สิ้นเปลือง
จนลูกหลานเสียใจไปตามๆกัน
คนแบบนี้มีเงินก็เหมือนเศษกระดาษ
มีทองก็เหมือนมีก้อนหิน เหตุด้วย ทาสทานนั้นเอง

เป็นผู้ให้ที่บริสุทธิ์
หมายถึง เจตนาบริสุทธิ์ทั้งก่อนให้ ขณะให้และหลังการให้
ไม่คิดหวังผลตอบแทน  ไม่คิดเสียดายในทาน
ทำบุญควรมีจิตใจที่ผ่องใส สบาย
ทั้งก่อนให้ ก็มีใจเพื่อให้
ขณะให้ ก็มีใจให้เพื่อความสุข
หลังให้ ก็ยินดีในทานนั้นเพื่อยังประโยชน์แก่ผู้รับ

การอธิษฐานหลังทำบุญนั้นก็สำคัญ ควรที่จะอธิษฐานไปในทางดี
เพื่อให้เรามีความสุข ความขัดข้องอุปสรรคต่างๆ  ความไม่มี
ความขัดสน อย่าเกิดในชีวิตอย่าไปอธิษฐานแบบมีข้อแม้แบบขอไปด้วยในตัว

ขอแนะนำว่า ขอให้เพียรทำความดี ให้ทานโดยไม่หยุดยั้งเท่าที่เราจะทำได้ 
เมื่อถึงเวลาบุญจะทำหน้าที่ตามเหตุและปัจจัย
บุญนั้นจะส่งผลให้เราอัศจรรย์ใจแน่นอน มีตัวอย่างมามากมาย

ผู้รับบริสุทธิ์ คือ ผู้รับที่พร้อมด้วยศีล เป็นคนดี และมีความชอบธรรม
บุญที่ทำย่อมส่งผลให้มากยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็น เนื้อนาบุญ
(พื้นนาที่ดี เพื่อรองรับผลของบุญ ให้บุญนั้นเจริญเติบโตยิ่งขึ้น)
หล่านี้คือเคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้เรามีความสุข ความเจริญ
นำพาความร่ำรวยมาสู่ชีวิตได้


3.การอนุโมทนาบุญ หรือเรียกว่า บุญงอก
การยินดีในบุญที่ผู้อื่นทำ เหมือนเป็นได้ทำบุญด้วยอย่างหนึ่ง
ถือเป็นการขอบคุณผู้ที่ทำบุญ และป่าวประกาศบุญนั้นให้รับรู้มากขึ้น
ยิ่งมีการอนุโมทนามาก จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน
บุญนั้นยิ่งงอกเงยขึ้นไม่รู้จบ

การชักชวนผู้อื่นร่วมทำบุญ พระพุทธเจ้า ท่านตรัสสอนไว้
ในเรื่องของการทำบุญไว้ว่า

“บุคคลใดทำบุญด้วยตนเอง ไม่ชักชวนคนอื่น
ถ้าเกิดในชาติต่อไปจะร่ำรวยโภคสมบัติ แต่ขาดเพื่อน ขาดบริวารสมบัติ
ถ้าดีแต่ชักชวนเขาไม่ทำเอง ชาติต่อไป มีเพื่อนมาก แต่ตัวเองจน
ถ้าทำบุญด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นด้วย รวยด้วย มีพรรคพวกมากด้วย”


ทำบุญด้วยตัวเอง และชักชวนผู้อื่นร่วมทำบุญ สายใยแห่งบุญนั้น
จะทำให้การทำงานใดๆ การค้าขาย หรือประกอบธุรกิจ
สำเร็จได้โดยง่าย เพราะมีคนร่วมทำบุญนั้นช่วยเกื้อหนุน
การจะเป็นคนร่ำรวยนั้น จะสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวแทบเป็นไปไม่ได้
ต้องมีคนช่วยเหลือ และส่งเสริมตลอดเส้นทางนั้น

กรรมเก่า ยังไงก็หาทางแก้ไม่ได้ สร้างอะไรไว้ในชาติที่แล้วเราก็ไม่รู้
เรื่องอดีตให้มันเป็นอดีตไป ควรคิดถึงปัจุบันและอนาคต
หากใครชวนท่านไป "แก้กรรม" ถ้าพาไปทำบุญปกติก็ควรทำ
แต่ถ้าทำบุญแบบแปลกๆ คิดไว้ก่อนเลยว่า อาจจะหลอกลวงก็เป็นได้
ทำบุญแล้ว อธิฐาน ขอ อโหสิกรรม เจ้าเก่านายเวรไว้
เป็นวิธีเดียวที่พอจะทำหนักให้เป็นเบาได้

กรรมหนักจะส่งหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรม
สร้างกรรมดีในชาตินี้ วันนี้ เดี๋ยวนี้
บุญใหม่จะมีอานิสงฆ์ มีกำลังมาก ทำให้วิบากกรรมเก่าไม่ส่งผล
อย่ายอมจำนนต่อชีวิต เร่งสร้างกรรมดี บุญใหม่
ให้บุญใหม่นั้นส่งผลในชาตินี้ นี่หละคือ
วิธีการดึงดูดความร่ำรวยที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้



สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
-----------------------------

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/
-----------------------------








ขายง่าย ขายคล่อง ด้วย Social Jacker Tools


http://bit.ly/SocialJackerTool


ขายไม่ออกใช่ไหม?
ถ้าใช่ !!!
ดูวีดีโอนี้ให้จบ
การันตีว่าเครื่องมือชิ้นนี้
จะทำให้คุณขายได้มากกว่า
ที่เคยคาดหวังมาครั้งไหนๆในชีวิต



ใครๆต่างก็ต้องการที่จะเพิ่มยอดขาย
และโปรโมทธุรกิจและสินค้าของตนเองให้ดัง
และลองมาแล้วเกือบทุกวิธี ไม่ว่าจะเป็น   

โพสต์กลุ่มเฟสบุ๊ค โพสต์เว็บลงประกาศฟรี   
ลงโฆษณาตามเว็บไซต์ ลงโฆษณาแบบจ่ายเป็นรายคลิ๊ก   
จ้างทำโฆษณา ฯลฯ
ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง?  

ไม่เวิร์คใช่ไหม

หากคุณกำลังหาเครื่องมือช่วยโปรโมท
ที่ใช้แล้วได้ผลจริง นี่คือเครื่องมือที่คุณ  ไม่มี ไม่ได้

 ตัวเดียวเอาอยู่

ใช้เพียงแค่ระบบนี้และไม่ต้องซื้อเครื่องมือโปรโมทใดๆเพิ่มเติมอีกแล้ว
ทำให้คนเห็นโฆษณาของคุณมากที่สุด
มีสินค้าและบริการที่ดีแต่ผู้คนกลับไม่เห็นสินค้าและบริการของคุณ

  มันก็มีค่าเท่ากับศูนย์

หากคุณเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยมาก อร่อยที่สุดใน 3 โลก
แต่เปิดร้านขายในซอยร้างไม่มีคนเดิน
คุณคิดว่าจะขายได้หรือไม่?

 แน่นอนว่าคำตอบคือขายไม่ได้

เช่นเดียวกันหากคุณมีสินค้าหรือบริการที่ดี
เพียงแค่มีหน้าเว็บไซต์หรือแฟนเพจก็ใช่ว่าจะขายได้
 การจะขายได้นั้นจะต้องมีผู้ที่สนใจเห็นสินค้าและบริการของคุณ  

เป็นจำนวนที่มากพอก่อนจึงจะขายได้ จริงไหม? 

  Social Jacker Tools

จะทำให้มีผู้คนเห็นโพสต์โฆษณาของคุณในแฟนเพจมากที่สุด
ผ่านช่องทางระบบ  Like และ Share  

3ขั้นตอน ง่ายๆ เพื่อให้สินค้าและบริการของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง      

ขั้นตอน 1 Promote Like&Share
เมื่อไลค์หรือแชร์ให้กับโพสต์ใดๆก็ตาม
เพื่อให้ผู้คนเห็นโพสต์ของคุณมากที่สุด
และเกิดการบอกต่อโพสต์ของคุณออกไปในวงกว้าง
ภายในเวลาอันรวดเร็ว

 ขั้นตอน 2 Popup Ads
แทรกโฆษณาของคุณลงในกระทู้และวีดีโอที่เป็นที่นิยม
ผู้คนที่เปิดดูกระทู้หรือวีดีโอฮอทๆ
ที่คุณใช้ระบบแชร์ในขั้นตอนที่1แชร์ออกไป
จะได้รับรู้และเห็นโฆษณาสินค้าและบริการของคุณ
ด้วยในรูปแบบโฆษณาแบบป็อปอัพ    

ขั้นตอน 3 Go Viral
ผู้คนชื่นชอบโพสต์ของคุณไม่ว่ามันจะคือกระทู้เด็ด หรือวีดีโอสุดเจ๋ง
 และเกิดการบอกต่อแชร์ต่อออกไปให้คุณ
(กระทู้หรือวีดีโอ ที่มีโฆษณาสินค้าและบริการของคุณจะติดไปด้วย
โดยไม่ต้องมานั่งปั่นกระทู้หรือทำวีดีโอใดๆเอง)

เห็นความทรงพลังของการ Like และ Share หรือยังครับ
 แต่ยังก่อนยังไม่หมดแค่นี้ เรายังส่วนเสริมให้อีกมากมาย  

รวมมูลค่า กว่า  15,500 บาท

ช่วงโปรโมชั่นพิเศษนี้ ราคาก็จะพิเศษด้วย
คลิกด้านล่างนี้ เพื่อไปรับสิทธิพิเศษจำนวนจำกัดแค่ 60 คน

http://bit.ly/SocialJackerTool

ขอบคุณครับ

สมพงษ์ ชนะวงษ์

 "ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา
อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
 Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
 -----------------------------
ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
 "วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้
 คลิกที่นี่ http://freelife.getresponsepages.com/
-----------------------------

 

เมื่อชีวิตนี้จะไม่ขาดผู้มุ่งหวังอีกต่อไป!!!


 
http://bit.ly/MLMBlueprint

97% ของนักธุรกิจเครือข่าย MLM ล้มเหลว

เกือบทั้งหมดเลิกทำธุรกิจภายใน 3 เดือน

และที่สำคัญ.. 

ไม่มีเพื่อนหรือญาติคนไหนรับโทรศัพท์เขาอีกเลย

ผมหวังว่าคุณไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น
หรือถ้าคุณกำลังเริ่มต้นสร้างอิสรภาพทางการเงินและเวลา
ด้วยการทำธุรกิจเครือข่าย MLM  อย่าทำต่อ ถ้ายังไม่ได้เรียนคอร์สนี้

ผมเองไม่ใช่ว่าไม่เคยล้มเหลวมาก่อน
"เพียงแต่ไม่เคยล้มเลิก" 
และเรียนรู้จากผู้นำ/ผู้รู้ ทั่วโลก รวมไปถึงคอร์สการตลาดออนไลน์
MLM Online, สัมมนา/คอร์สพัฒนาตนเอง
และอีกสารพัดการเรียนรู้และทดลองทำ
จนพาตัวเองมาถึงวันนี้  
ผมเชื่อว่าผม sponsor สมาชิกติดตัวด้วยปริมาณและ speed สูงสุดในประเทศไทย
ไม่ว่าจะเข้าร่วมธุรกิจ MLM  ใดในอดีต
รายได้ของผมไต่ขึ้นสู่หลักแสนภายในเวลาไม่กี่เดือนเสมอ



ร้อยทั้งร้อย นักธุรกิจเครือข่ายถูกบอก ถูกสอน
ให้นำเสนอโอกาสทางธุรกิจกับคนรู้จัก
พวกเขาจึงเริ่มต้นด้วย การขาย ขายโอกาสทางธุรกิจ
ซึ่งก็ไม่พ้นเพื่อนกับญาติ

 และเมื่อลิสต์รายชื่อเพื่อนกับญาติหมดไปแล้ว
พวกเขาก็ไม่สามารถไปต่อ ล้มเหลว และล้มเลิกในที่สุด

บ้างก็ถูกบอกให้โปรโมทเว็บไซต์ของบริษัท/ของทีมงาน
ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวทางธุรกิจที่ไม่มีใครสนใจ
หมดเวลา หมดเงินไปกับการโปรโมทเว็บไซต์เหล่านั้น
จนกลายเป็นสแปมในอีเมล และสื่อออนไลน์ต่างๆ
จนเพื่อนๆ รังเกียจ โทร.ไปไม่รับ ญาติไม่อยากพบเจอ



กลับกัน 
วิธีการทำธุรกิจ MLM ของผมไม่ได้เริ่มต้นด้วย “การขาย”
แต่สร้างรากฐานจาก “การตลาด”
และเป็นการตลาดที่ดึงดูดผู้มุ่งหวังให้เข้ามาหาผมเอง
มาขอศึกษาและเข้าร่วมธุรกิจกับผมเอง
โดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยปากชวนแม้แต่คำเดียว
มากไปกว่านั้น ผมจำเป็นต้อง “คัดเลือกคนที่ใช่” เท่านั้นให้มาร่วมงานกับผม

สิ่งที่ผมค้นพบ และรูปแบบที่ผมทำ

 ทำให้ผมประสบความสำเร็จอย่างสูง

ได้ถูกนำมาถ่ายทอดให้คุณในคอร์ส

 MLM Attraction Blueprint 

นี้เป็นระบบการตลาดที่จะทำให้คุณ

ไม่ขาดผู้มุ่งหวังอีกต่อไป


ลองนึกภาพว่า ถ้าคุณเป็นเหมือนผม 
วันๆ จะมีแต่สายเข้า โทร.มาสอบถามเรื่องธุรกิจที่ผมทำอยู่
ขอข้อมูล ขอเข้าฟังประชุม ขอเข้าร่วมทีม (ไม่ได้เว่อร์..ผมเป็นอย่างนี้จริงๆ)
แล้วชีวิตคุณจะดีแค่ไหน กับการมีอิสรภาพทางการเงินและเวลา
ผมไม่สามารถเชื้อเชิญคุณได้มากไปกว่านี้
ดวงและชะตาของแต่ละคนเป็นไปตามที่กรรมกำหนด
คุณได้มาเจอเว็บนี้ ถูกที่ และถูกเวลา
ที่เหลือ..อยู่ที่การตัดสินใจของคุณเอง 
ผมหวังว่าคุณจะมองเห็นโอกาสในการเรียนรู้
โอกาสบางอย่างที่จะเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจ
ซึ่งส่งผลไปสู่ไลฟ์สไตล์ของคุณในที่สุด …
โชคดีครับ

http://bit.ly/MLMBlueprint

 สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com

-----------------------------

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/
-----------------------------





จะเป็นถ่านหรือเป็นเพชร?




จะเป็นถ่านหรือเป็นเพชร?

บทความนี้แชร์และอ่านกันมากกว่า ห้าหมื่นแชร์
มีที่มาจาก นายแพทย์ติยะ เป็นหนังสือรวมรวมชีวิตและคำคม
จากผู้ "ไม่ยอมแพ้"
ดาวน์โหลดบางส่วนของหนังสือได้ที่นี่ครับ

"ท้อเป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร"


ถ่าน และ เพชร
กำเนิดมาจากวัตถุสิ่งเดียวกันคือ คาร์บอน
เมื่อคาร์บอน ผ่านความร้าน ผ่านแรงอัด แรงกดดัน อย่างหนัก เป็นเวลานาน
คาร์บอน ที่สามารถผ่านออกมาโดยไม่แตกไปเสียก่อน ถึงจะกลายเป็นเพชร
เพชรที่แท้จึงมีความแข็งแกร่งมาก
เหตุที่เพชรมีค่ามาก  ก็เพราะความยากของการเกิดมา

ชีวิตคนเมื่อเทียบกับถ่านและเพชร



ชีวิตของถ่าน(คนรักสบาย)
ชีวิตที่อยู่ไปเรื่อยๆไปวันๆ เมื่อเจอเข้ากับแรงกดดัน แทนที่จะสู้
ก็ทำเป็นบ่นว่าทำไปให้ลำบากทำไม แล้วก็หนีไป..
วางเป้าหมายชีวิตไว้แค่วันต่อวัน หรือเดือนต่อเดือน
ไม่ใส่ใจการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตแตกต่างไปจากเดิมๆ
คิดเพียงว่า การเรียนรู้มันจบแล้วตั้งแต่ "ในห้องเรียน"
ทำนิสัยแบบคนน้ำเต็มแก้ว รู้ทุกเรื่อง เก่งทุกเรื่อง แต่ทำไม่ได้สักเรื่อง
คิดอยู่อย่างเดียวว่า "ทำไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้หรอก"
โทษเวรโทษกรรม โทษรัฐบาล โทษบริษัท โทษทุกสิ่งอย่างยกเว้น"โทษตัวเอง"
ชีวิตสามารถทำนายอนาคตได้เลยว่า "ไม่ต่างจากเมื่อวาน"


ชีวิตของเพชร(คนรักความกดดัน)
ชีวิตของการพิสูจน์ตัวเอง ตั้งใจสิ่งใดไว้แล้ว "ต้องทำให้ได้"
ไม่ล้มเลิก ลงมือทำมากๆ เกาะติด อดเปรี้ยวไว้รอกินตอนหวานๆ
ยอมแลกทุกสิ่งเพื่อความสำเร็จ แม้แต่ความสบายส่วนตัว
แต่เมื่อวันเขาประสบความสำเร็จเขาจะบอกว่า
"ถ้าวันนั้น ผมไม่สู้ ก็จะเป็นได้แค่ หมาข้างถนน"

ชีวิตไม่มีทางเลือกมากนัก ผมมันโชคไม่ดี...
ชีวิตที่รอวันฟ้ากำหนดให้ ก็เหมือนการปลูกต้นไม้ให้เทวดาเลี้ยง
ความโชคดี เกิดมาจาก การเตรียมพร้อมที่ดี มาบรรจบกับ โอกาส
ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะกลายเป็น ฟลุ้ค ถึงได้มาแล้ว ก็ยากที่จะรักษาไว้ได้นานๆ

ชีวิตของคนเรามีกันอย่างมากไม่เกิน 100กว่าปี
วันหนึ่งๆก็ผ่านไปเร็วมาก หากเราปล่อยชีวิตผ่านไปแบบไร้ค่า
ก็เหมือนกับถ่านที่ค่อยๆถูกไฟเผาไปทีละน้อยๆ
สังเกตได้จาก การทำเรื่องเดิมๆ พูดเรื่องเดิมๆ อยู่แบบเดิมๆ
วันหนึ่งเมื่อเราไม่เปลี่ยนตัวเอง ธรรมชาติจะบังคับให้คุณเปลี่ยน
สถานการณ์ในตอนนั้น จะยิ่งแย่และกดดันมากกว่าการเปลี่ยนตัวเองในวันนี้



เริ่มด้วยการ ตั้งเป้าหมายของชีวิต เรียนรู้ ปรึกษาจากผู้ที่รู้ และพยายามทำ
เมื่อเริ่มรู้สึกลำบาก เหนื่อย หนัก แต่สังเกตว่าจะมีความสุขประกอบไปด้วย
ดีใจไว้เลยครับว่า เราเดินมาถูกทางแล้ว..ใกล้เป็นความจริงแล้ว
พับแขนเสื้อขึ้น พร้อมลุย ...บอกตัวเอง ชีวิตของเรา
วันก่อนๆแม้เราไม่เอาถ่าน แต่วันหน้า เราจะเอาถ่าน และเอาถ่านเรานี้
ทำให้กลายเป็นเพชร แล้วเจียรไน ให้ส่องแสงไปทุกที ทุกทาง

หลายๆคนที่พบว่าอะไรๆมักไม่เป็นดั่งใจ
นี่คือมุมมองหนึ่งของการแก้ปัญหาและอุปสรรคที่กำลังเจออยู่
อ่านจบแล้วคุณจะพบกับรอยยิ้มและมุมมองใหม่ที่คุณเองก็คาดไม่ถึง

ขอให้มีความโชคดี ที่ไม่ได้มาจากคำว่า "ฟลุ๊ค"

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
-----------------------------

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/
-----------------------------



เทคนิคการสปอนเซอร์(sponsor)ใน 5 นาที!!!


 




เทคนิคการสปอนเซอร์(sponsor)ใน 5 นาที!!!


สวัสดีครับ

วันนี้รู้สึกว่าเป็นวันที่ดีมากๆเลยสำหรับทุกคน
เป็นคำถามร้อยล้านกันเลยทีเดียวกับคำถาม
"มีวิธีการ สปอนเซอร์ ยังไง ที่ได้ผลแบบ 100% ไหม??"

มีคำถามก่อนว่า...
คุณรู้สึกยังไง เมื่อมีคนเอา รูปบ้าน รถ หรือ เงินเยอะๆ มาโชว์
คุณรู้สึกยังไง เมื่อมีคนเอา แผนการตลาดที่เขาบอกว่า ดีที่สุดมาเสนอ
คุณรู้สึกยังไง เมื่อมีคนเอา สินค้าที่แทบจะเป็นยาวิเศษ มาให้ลอง
คุณรู้สึกยังไง เมื่อมีตนเอา Lifestye ที่แสนวิเศษมาให้ดู

สิ่งเหล่านี้ จะเรียกว่า  Motivation(การสร้างแรงจูงใจ)
อาจจะได้ผลกับใครบางคนหรือหลายๆคนที่เจอ "สิ่งล่อใจ" เหล่านี้
แต่มันจะได้ผลเพียงระยะสั้นๆ ประมาณ 72 ชั่วโมงเท่านั้น
ในระยะเวลานี้ เป็นช่วงที่ สำคัญมาก
จะได้ทำคือทำเลย ถ้าเลยเวลาไปแล้วก็จะไม่ได้ทำ
ถ้าไม่มีแรงจูงใจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพาเข้าประชุมซ้ำๆ
แบบหลายๆที่เขาทำกัน จนหลายๆคนเริ่มเบื่อ การจูงใจนั้นก็จะไร้ผล
และธุรกิจเครือข่ายมักใช้วิธีนี้เสียเป็นส่วนใหญ่
เพราะเห็นผลเร็ว เห็นผลเยอะ แต่ในระยะยาว มักจะไม่ยั่งยืน

อีกอย่างหนึ่งคือ Inspiration(แรงบันดาลใจ)
สภาวะของบุคคลที่มี "ความต้องการ" ในการกระทำ
การเรียนรู้หรือแสวงหาบางอย่าง "ด้วยตนเอง" โดยมิต้องให้ผู้อื่นมาเกี่ยวข้อง
มีความต้องการที่จะทำอยู่แล้ว มีเจตคติที่ดีต่อสิ่งนี้อยู่แล้ว
หรือมีความสนใจพิเศษในสิ่งนี้อยู่แล้ว
พูดง่ายๆว่า แค่เสนอในสิ่งที่ "เขาต้องการ"เขาก็พร้อมจะทำทันที
วิธีนี้จะเห็นผลช้า และไม่ค่อยจะได้ผลแรงนัก
แต่ระยะยาวจะยั่งยืนและเห็นผลได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ

ความต้องการของคนที่มีแรงบันดาลใจ เราจะรู้ได้อย่างไร
สามารถดูได้จาก อุปนิสัย ของคน 6 ประเภทนี้


1.กลุ่ม นักรบ (warrior)
คนในกลุ่มนี้จะเป็นพวกลุยแหลก ดุดัน
ตรงไปตรงมา ชอบท้าทาย ชอบการแข่งขัน
มีขอเสียคือ เอาใจใครไม่ค่อยเป็น มีความอดทนน้อย
การกำหนดกฎเกณท์แน่นอน ตายตัว ตรงเวลา
ประสบความสำเร็จ "สูงสุด แรง และเร็ว"
มักจะเข้ากับกลุ่มกับคนอื่นๆไม่ค่อยได้

2.กลุ่ม นักสร้างสรรค์ (Alchemist)
คนในกลุ่มนี้ จะเป็นพวกพูดอ้อมค้อมมักจะไม่พูดอะไรที่ตรงๆ
มักให้ไปคิดต่อจากที่พูดไว้มักจะมีคำคมสวยๆเท่ห์ ออกมาให้ฟังเสมอๆ
เป็นคนที่ชอบสร้างแรงบันดารใจให้ผู้คน มีชีวิตชิวๆง่ายๆ
ชอบสนุกสนาน ชอบเข้าสังคม ชอบท่องเที่ยว ไม่ชอบการท้าทาย
ชอบอะไรที่มันแปลก ๆ ใหม่ ๆ อยู่เสมอนั้น
เนื่องจากต้องการประสบการณ์ที่แปลก ๆ ออกไปนั่นเอง
และชอบทำให้คนอื่นๆรู้สึกดีกับเขา
แต่มักจะไม่ค่อยรักษาเวลาเท่าที่ควร


3.กลุ่ม พ่อมด (wizard)
ไม่ชอบพูดอะไรตรงๆเช่นเดียวกัน แต่บางครั้งแทบจะไม่พูดเลย
ไม่ชอบสังสรรค์ มักเก็บตัวเงียบๆ แต่ในหัวจะคิดตลอดเวลา
เมื่อจะลงมือทำอะไรสักอย่าง มักมีแผนการล่วงหน้าก่อนเสมอ
ข้อมูลเพียบพร้อม ระเอียดรอบคอบ ผิดพลาดไม่ได้
ทุกอย่างต้องถูกต้องตามแผนที่วางไว้ ตลอดเส้นทางธุรกิจเขา
มักมีนิสัยมาก่อนเวลาเสมอๆ

4.กลุ่ม นักบวช(priest)
เรียกว่าประเภท "โลกสวย" ก็ว่าได้
ชอบช่วยเหลือผู้คน ไม่สนใจเรื่องเงิน เกลียดการท้าทาย
ไม่ชอบแข่งขัน การสื่อสารกับใครๆ มักคิดถึงใจผู้อื่นก่อนเสมอ
เพราะไม่ต้องการขัดแย้งกับใครๆ ไม่ชอบความสนุกสนาน
ไม่ใช่นักวิเคราะห์ ไม่คิดเยอะ แต่ชอบทำทันที ไม่กลัวล้มเหลว
แต่ถ้าสิ่งใดที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นๆได้เขาจะทำทันที
จะเป็นคนตรงต่อเวลา ไม่มาก่อน และไม่มาสาย


5.กลุ่ม เทวดา(Angel)
มองทุกอย่างจากข้อมูลและเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์
มีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน ตรงไปตรงมา ไม่ต้องการความคิดเห็น
มีความเป็นกลาง ต้องการข้อเท็จจริงเท่านั้น 
เน้นข้อมูลที่แสดงได้เป็นตัวเลขและข้อมูลต่าง ๆ
เพื่อการวิเคราะห์ และหาข้อสรุป


6.กลุ่ม ปีศาจ(Devil)
คนกลุ่มนี้จะระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ถ้ามีอะไรรู้สึกผิดปกติ
จะไม่ยอมรับในทันที และต่อต้านอย่างแรง
ชอบคิดแบบใช้ เหตุและผล เสมอ ไม่ต้องการเรื่องอารมณ์
ชอบศึกษาประวัติของสิ่งต่างๆ ประสบการณ์ของคนอื่น
และมักจดจำประสบการณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี

เมื่อคุณได้รู้แล้วว่า คนเราคิดและมีแรงบัลราดใจจากอะไร
คุณก็เสนอสิ่งนั้นให้เขา ให้ผู้มุ่งหวัง"ได้ตัดสินใจ"ด้วยตัวเขาเอง
อย่างเช่น ในกลุ่มนักรบที่ชอบการท้าทาย
คุณก็แค่ส่ง "การท้าทาย" ไปให้เขา ด้วยการบอกว่า

"ตอนนี้สถิติของคนที่เป็นไดม่อน ใช้เวลาแค่ 2 เดือนเอง
คุณคิดว่าคุณจะสามารถ ทำลายสถิตินี้ได้ไหมละ
อย่างคุณผมว่าแค่เดือนเดียวก็พอแล้วที่จะพิชิตไดม่อน"

หรือกลุ่มที่เราเจอประจำ เช่น พวกที่บอกว่า "ขอคิดดูก่อน"
นั้นหละพวกต้องการข้อมูลครับ เป็นพวกนักสร้างสรรค์ จัดไปเลยครับ
ซีดี แผนการตลาด รายละเอียดบริษัท รูปแบบสินค้า โอกาส
ให้ไปให้เยอะ แล้วให้เขาได้พิจารณา อาจจะหายไปสักอาทิตย์นึง
แต่เมื่อเขากลับมา...เขาจะมาขอสมัครด้วยตัวเขาเอง

ใช้เวลา  5 นาทีพูดคุยกับผู้มุ่งหวังศึกษาว่าเขาเป็นคนกลุ่มไหน
ก่อนจะเสนอเพื่อให้โดนใจกับแรงบันดาลใจของเขา

ผมเชื่อว่า ทุกคนบนโลกนี้ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
อยากมีอิสรภาพทางการเงิน มีเวลาเพื่อไปใช้กับคนที่เรารัก
สุขภาพที่ดี และที่สำคัญ คือ อนาคตของลูกๆ และคนในครอบครัว
เกิดวันใดวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา
(ไม่ได้แช่งนะครับ แต่เจอกับตัวเองมาแล้ว)
เราก็ได้วางรากฐานที่ดีให้ครอบครัวเราแล้ว
ครอบครัวก็จะอยู่ต่อไปได้ โดยที่ไม่ลำบากครับ

"ทำวันนี้ของคุณให้ดีที่สุด
ให้เหมือนว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิตคุณ"

แล้วจะได้ไม่เสียใจในภายหลังครับ...

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com

-----------------------------

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/
-----------------------------



ใคร..ที่คุณควรชวนมาทำธุรกิจเครือข่าย??



ใคร..ที่คุณควรไปชวนทำธุรกิจเครือข่าย??


คำพูดยอดฮิต ของคนทำธุรกิจเครือข่าย..
ไม่รู้ว่า จะไป สปอนเซอร์ใครดี???

การที่เราจะเลือกกลุ่มคนที่เรียกว่า "ผู้มุ่งหวัง"
หรือ "กลุ่มเป้าหมาย"
สมัยก่อนมักจะสอนกันว่า

"ให้ชวนทุคน ในระยะที่ตาเห็น หรือมือคว้ามาได้"

.......

อ่านตรงนี้ก่อนนะครับ...

บางครั้งเราได้แนะนำธุรกิจเราไปแล้ว
ในตอนแรกเขาบอกสนใจ แต่พอฟังจนจบ..
เขาบอกไม่มีทุน.. ขอคิดดูก่อน..
อย่าเพิ่ง "คิดไปเอง" นะครับว่าเขาไม่ได้สนใจ
เพียงแต่เขาอาจไม่มีทุนจริงๆ หรือ ข้อมูลที่เราให้ยังไม่เพียงพอ

ความจริงบางอย่างที่สังคมไทยเป็นกันอยู่ แต่ไม่ค่อยจะยอมรับกันนัก
คือ รายได้ของแต่ละคน ไม่ว่าจะสูงแค่ไหน มักจะไม่ค่อยพอใช้กัน..
มันมีทฤษฎีนึงที่บอกว่า

"รายจ่ายของเรามักจะสูงขึ้นตามรายรับของเราเสมอ"

ทั้งเสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการขับเบ็นซ์ราคาหลายล้าน  ข้าราชการ
ครูบาอาจารย์สายอาชีพต่างๆ พนักงานบริษัทระดับหัวหน้า
พนักงานรัฐวิสาหกิจระดับบน ลูกจ้างทั่วไป แม่ค้าขายของในตลาด
เจ้าของปั๊มน้ำมันใหญ่ เจ้าของตลาดสด เจ้าของร้านขายวัสุดโคตรใหญ่มาก
ล้วนแต่หนีไม่พ้นจาก ทฤษฎี นี้ทั้งนั้น

1.คนส่วนใหญ่ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานบริษัท
เค้ามีรายได้ประจำแต่มักแค่พอกินพอใช้ หรือมีเก็บนิดหน่อย
ไม่มีใครร่ำรวยจากการรับเงินเดือนประจำหรอกครับ
ส่วนใหญ่มีหนี้ทุกคน และมีมากซะด้วย แถมมักเป็นหนี้ระยะยาวมาก
จนเกือบเกษียณโน่นเลยบางคนเลยทำใจลาออกหรือถูกไล่ออกไม่ได้
เพราะเป็นหนี้แบบนี้แหละที่เป็นโซ่ล่ามเค้าไว้

2.ข้าราชการไม่ว่าสายไหน กระทรวงไหน ที่ทำงานอย่าง"สุจริต"
โดยไม่มีมรดกมาก่อนหรือกิจการอื่นรองรับ
จะแค่พออยู่พอกิน หนี้สินเพียบ ทั้งผ่อนรถ ผ่อนบ้าน
บัตรเครดิต หนี้สหกรณ์กันยาว
กลุ่มนี้ก็เช่นกันที่ลาออกไม่ได้เพราะโดนโซ่ตรวนแห่งหนี้สินล็อคไว้

3.เจ้าของกิจการที่เราเห็นเค้าดูมีกิจการใหญ่โต อย่าคิดว่ามีเงินนะครับ
การทำธุรกิจใช้เงินหมุนครับ บางทีแทบไม่พอตอนสิ้นเดือน
บางคนมีหนี้กับธนาคารหลายล้านบาท ใช้ได้แต่ดอกเบี้ยเป็นเดือนๆไป
แต่เงินต้นยังอยู่ครบในธนาคาร

4.คนที่ไม่มีงานประจำหรือแม้แต่คนที่มีเงินเดือน "อยากรวยทุกคน"
ถ้ามีโอกาสหาได้มากกว่านั้น อย่าไปมโนเอาเองว่าเค้ามีพร้อมหมดแล้ว
เค้าคงไม่สนใจหรอก

5.ไม่มีมนุษย์คนไหนไม่อยากมีรายได้เพิ่ม แม้จะมีฐานะมากแค่ไหน
ถ้ามีรายได้เสริมเพิ่มมาเป็นกระเป๋าใบที่สองสามสี่ เค้าเอาหมด
อย่าคิดแค่ว่าเค้ารวยแล้วคงไม่สนใจที่จะหารายได้เพิ่มหรอก
อย่าคิดว่าคนรวยแล้วไม่อยากได้เงินนะครับ
เค้าอยากได้มากกว่าเราที่จนกว่าอีก เราอยากได้แค่ 10 ล้าน
แต่เค้าอยากได้เป็นร้อยล้าน ไม่งั้นเค้าจะไปเล่นหุ้น ซื้อหวยกันเหรอครับ
บางคนเงินเก็บเป็นล้าน แต่ก็อยากได้เพิ่มก็ยังไปลงในหุ้น

6.คนมีชื่อเสียงกับคนมีฐานะร่ำรวยอาจไม่ใช่คนเดียวกันเสมอไป
คนมีชื่อเสียงหลายคนเค้าจนกรอบกว่าเราอีกก็มี

7.ทุกคนมีจุดอ่อนที่อยากได้เงินเพิ่มทั้งนั้น
เช่นค่าเทอมลูก เงินท่องเที่ยว อยากพักแต่ไม่ได้พัก สุขภาพที่เปลี่ยนไป
บางคนเบื่องานประจำตัวเอง อยากลาออกจะตาย
แต่ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรที่ยังมีรายได้พอ
บางทีเค้ามองไม่เห็นช่องทางหรือโอกาสว่าจะหารายได้เสริมอย่างไร
บางคนไปคุยนิดเดียวก็เกิดการ Click ดีใจแทบต่อมน้ำตาแตกก็ยังมี

หลายคนเริ่มหัวเราะ...
เพราะมองเห็นตัวเองว่า ที่มาสนใจทำธุรกิจเครือข่าย
ก็เพราะอยู่ในกลุ่มที่ผมยกตัวอย่างมานะแหละ
ยังรู้สึกขอบคุณอัพไลน์ด้วยซ้ำว่าโชคดีที่มาชวนทำงานนี้
เลยมีโอกาสดีจากวันนี้ยาวไปถึงอนาคต
ตอนแรกเลยคือขอปลดหนี้ให้ได้ก่อนเถอะ
รางวัลไปเที่ยวเมืองนอกไม่ต้องเอามาล่อ รถหรูก็ไม่ต้องเอามาล่อ
ขอแค่ตื่นมาแต่ละวันไม่ต้องคิดว่า
จะเอาเงินที่ไหนมาเสียดอกเบี้ยหรือใช้หนี้
เท่านี้ก็มีความสุขขึ้นเยอะแล้ว
อนาคตค่อยว่ากันใหม่

ผมอยากบอกทุกคนที่อาจจะเริ่มท้อนะ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด
ลองหันมามองกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆอย่าจำกัดแค่ที่เราคิดไว้นะครับ
ยังเหลือคนอีกหลายล้านคนยังไม่รู้จักธุรกิจเครือข่าย
และเชื่อว่าหนึ่งในนั้นคือเพชรที่เราตามหาอยู่นะครับ

ผมมั่นใจมากว่าธุรกิจเครือข่ายทำไม่ยากครับ
ขอให้พยายามผ่านก้าวแรกไปให้ได้ แล้วมันจะไปต่อเอง
เดินเข้าไปเถอะ สำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ช่าง
แต่อย่างน้อยได้ให้โอกาสตัวเองให้ลงมือทำ
บางคนจะเคยเจอมาแล้วว่าบางเคสไม่คิดว่าจะใช่
แต่แค่ลองดูกลับได้เพชรเม็ดใหญ่มาเลย

เวลาสปอนไม่สำเร็จ อย่าคิดมาก
เพราะบางทีเค้าไม่ได้เกิดมาเพื่อคิดเหมือนเรา
ต่อให้เอาเทวดาหรือโคตรไดม่อนมาพูดก็อาจไม่สำเร็จ
บางคนเค้าเลือกชีวิตของเค้าแล้ว ก็ปล่อยไปครับ

ผมเข้าใจดีครับว่าคนที่เตรียมตัวศึกษาธุรกิจเครือข่าย
จนพร้อมมาก่อนแบบผมแล้วเดินเข้ามาสมัครเอง
ย่อมทำงานได้เร็วกว่าคนที่ไม่รู้จักแต่ถูกสปอนมา
นั่นก็คือเหตุที่ต้องโค้ชให้ลูกทีมรู้จักธุรกิจเครือข่ายดีเท่าผม
เพื่อให้เค้าเข้าใจระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผมโค้ชลูกทีมที่ยังไม่เก่งให้เค้าปรับทัศนคติใหม่ ไม่นานเค้าไปต่อได้

อยากบอกว่าที่พวกเราท้อ
คือ "แพ้ความคิดตัวเอง" ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นครับ
เหมือนเด็กกำลังหัดเดินแล้วต้องล้มเจ็บตัวบ้าง
แต่เมื่อเราเดินเป็น เราจะเดินได้ไกลและแข็งแรงขึ้นทุกวัน

ทุกคนมีความสามารถครับ
แต่ความคิดตัวเองต่างหากที่ทำให้เหมือน"นักรบที่ไม่อยากรบ"
ผมเพียงแค่ช่วยให้นักรบอยากรบขึ้นมาเท่านั้นเอง
การออกไปลงมือทำเต็มร้อย แต่กลับได้กินแห้วจนอิ่มเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้
แต่อย่ากินลูกท้อนะครับ...

 สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com

-----------------------------

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/

ทักษะสำคัญที่ควรเรียนรู้เมื่อเริ่มทำธุรกิจเครือข่าย


ทักษะสำคัญที่ควรเรียนรู้เมื่อเริ่มทำธุรกิจเครือข่าย


สอนจาก ประสบการณ์จริง

เกือบทั้งหมดของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ล้วนเกิดจากการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก ของคนเก่าๆมาแทบทั้งสิ้น
เพราะยังไม่มีโรงเรียนหรือหลักสูตรไหนในโลกนี้
สามารถทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้ทุกคน

เป็นเพียงแค่ "วิธีการ" ไหนที่เหมาะกับใครและไม่เหมาะกับใคร
ใครนำไปใช้ประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นกับ
"ความพยายามและความมุ่งมั่นของแต่ละคน"
ว่าจะพัฒนาตัวเองไปสู่ความเป็นผู้นำได้

ทักษะพื้นฐาน ที่ควรจะทราบไว้ และนำไปพัฒนาตัวเอง

1.ทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ
2.ทักษะการเป็นผู้นำ
3.ทักษะในการสื่อสาร
4.ทักษะในการพบปะผู้คน
5.การเอาชนะ ความกลัว ความสงสัย และความไม่มั่นใจในตัวเอง
6.การเอาชนะความกลัวจากการคำปฏิเสธ
7.ทักษะบริหารการเงิน
8.ทักษะการลงทุน
9.ทักษะในด้านการสร้างความน่าเชื่อถือ
10.ทักษะการบริหารเวลา
11.การตั้งเป้าหมาย
12.การจัดระบบ
13.ทักษะของการสื่อสารกับตนเอง

เหล่านี้ ล้วนเป็นทักษะพื้นฐาน ที่ควรเรียนรู้ไว้ทั้งสิ้น
อยู่ที่ว่าใครทำได้มากได้น้อย
บางคนที่สามารถพัฒนาได้บางทักษะ
อาจทำรายได้มากกว่าคนที่มีทักษะครบทั้งหมด
ขึ้นกับว่า
เขาได้นำมันไปปฏิบัติด้วยหรือไม่

"การรู้มาก กับ การทำมาก"

ผลก็ย่อมออกมาแตกต่างกัน
ถึงแม้จะสร้างรายได้ไม่ได้เลยในธุรกิจเครือข่าย

แต่ทักษะเหล่านี้มีประโยชน์ และมีคุณค่า
กับตัวคุณอย่างมหาศาลแน่นอน ในอนาคต

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

-----------------------------

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/
-----------------------------

โรงเรียนเครือข่าย "สอนอะไร"??




คุณค่าของธุรกิจเครือข่าย


หนังสือเก่าๆใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์เสมอไป..บางทีก็มีคุณค่ากว่าหนังสือใหม่ๆมากมาย
ไปรื้อห้องสมุดของตัวเองมาดู มาทบทวนสิ่งเก่าๆ รื้อฟื้นสิ่งที่อาจจำไม่ได้
เจอหนังสือ " โรงเรียนสอนธุรกิจ "ของ Robert Kiyosaki
เอามาอ่านใหม่อีกไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้ว แต่รอบนี้จะรีวิวมาให้คนที่ไม่เคยอ่าน
ก็แปลกใจว่าบางสิ่งบางอย่างดูเหมือนยังทันสมัยอยู่เลย แม้มันจะหลายปีมาแล้วก็ตาม


เจอประโยคสะดุดใจ ที่หลายๆคนคงเคยได้ยิน

"โรงเรียนสอนให้เราออกไปทำงานหนัก'เพื่อหาเงิน'
แต่ผมเขียนหนังสือเหล่านี้เพื่อ'ให้คนรู้วิธีใช้เงินทำงานหนัก'
ให้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในโลกนี้"


คุณเชื่อในประโยคนี้ไหม ???

สำหรับคนที่ "ไม่เชื่อ" ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็จะกลับไปใช้ชีวิตแบบ
"คนส่วนใหญ่" บนโลกนี้ต่อไป

ส่วนคนที่ "เชื่อ"
จะได้พบกับโลกที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แต่ผมไม่ได้บอกว่าทุกสิ่งจะง่ายเสมอไป
แต่มันต้องแลกมาด้วยหลายสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแม้แต่จะ "คิด"

โรงเรียนสอนธุรกิจนี้ เขาสอนอะไรบ้าง..

1.สอนให้เห็นถึง "โอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณเอง"
ไม่ใช่เรื่องเงิน ไม่ใช่เรื่องสินค้า หรือแผนการจ่ายผลตอบแทน
แต่เป็นกระบวนการอบรม ที่ทำให้คุณเปลี่ยนจาก
"ดักแด้กลายเป็นผีเสื้อ"
ที่พร้อมเผชิญสถานการณ์ต่างๆในอนาคตที่คนทั่วไปมักจะหลีกเลี่ยง
และไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน

2.สอนให้เห็นถึง "โอกาสเปลี่ยนจากสิ่งที่ทำไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนงาน"
การเปลี่ยนทัศนคติจาก ผู้ที่อยู่ด้านซ้ายของเงินสี่ด้านมาสู่ด้านขวา
มักเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ สำหรับคนทั่วๆไป เพราะมันเป็นสิ่งที่เรียกว่า
"สุดขั้ว"



ดังนั้นจึงเกิด "พี่เลี้ยง" หรือ "ที่ปรึกษา" ขึ้น
คอยแนะนำคนใหม่ที่เพิ่งมาเข้าโรงเรียน ให้ได้รู้จักวิธีการและแนวคิดที่ถูกต้อง
ของการเป็น "นักธุรกิจเครือข่าย" ที่ดี
ดังนั้น..แต่
"จงสังเกตที่คำพูดให้ดี"

ว่าบริษัทนั้นสนใจแค่ให้คุณเป็น "นักขาย"
หรืออบรมใน "ทักษะด้านธุรกิจ"
เพื่อให้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้น

3."ใช้ต้นทุนในการเริ่มต้นต่ำกว่าในทุกธุรกิจ"
โรงเรียนนี้ใช้ทุนเริ่มต้นเป็นเงินนั้นเพียงเล็กน้อย
แต่ก็มีทุนในส่วนอื่นๆที่เพิ่มเข้ามา
ที่ "ไม่ใช่เงิน" ก็ไม่มากนัก เช่นเวลา แรงกาย แรงใจ และความพยายาม
ในการเรียนรู้สิ่งต่างที่ระบบของโรงเรียนได้จัดเตรียมไว้ให้

เป็นระบบที่เตรียมไว้ให้กับ "ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้"
แต่ที่คนส่วนใหญ่เดินไปไม่ถึง เพราะ"ล้มเลิก"ก่อนที่เขาจะไปถึง
สิ่งสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ
มีสองอย่าง "ช่วยตัวเอง" และ "ช่วยคนอื่น"

4.สอนให้เห็นถึง "การได้ลงทุนในธุรกิจประเภทเดียวกับที่คนรวยทำ"
ปัญหาสองอย่างที่เจอเกี่ยวกับเงินคือ
"การมีเงินน้อยเกินไป" ที่คนส่วนใหญ่เป็นกัน
และ "การมีเงินมากเกินไป" แล้วไม่รู้จักการใช้เงินนั้นมาทำงานแทน

ความสวยงามของธุรกิจนี้ก็คือ สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อความสำเร็จ
ก็คือ "การช่วยให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ"

ไม่ได้วัดที่คุณมีเงินเท่าไหร่แต่มันอยู่ที่คุณ"ช่วยผู้คน"ได้มากเท่าไหร่

5."โอกาสสร้างฝันให้เป็นจริงได้"
"คนส่วนใหญ่อยู่อย่างไร้ความฝัน"
คนที่ร่ำรวยส่วนใหญ่มักจะมีฝันที่ใหญ่ ต่างจากคนจนที่มักมีฝันเล็ก
แม้ว่าจะไม่มีเงิน ก็ยังสามารถฝันที่จะร่ำรวยได้ เพราะความฝันไม่จำเป็นต้องใช้เงิน
ส่วนคนจนจำนวนมากเขาจนเพราะเขาเลิกที่จะฝัน

ปัญหาใหญ่คือ อย่าให้ใครมาทำลายความฝันของคุณ
ด้วยคำว่า "แกทำไม่ได้หรอก"

6."คุณค่าของธุรกิจเครือข่ายวัดด้วยอะไร"
กฎของเมตคาร์ฟ
คุณค่าของเครือข่าย=ผู้ใช้(ยกกำลัง)^2

เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากศักยภาพของมัน
งานที่คุณต้องทำก็คือ โคลนนิ่งหรือ หาคนที่คิดเหมือนคุณมาให้ได้
เมื่อคุณหาได้ 1 คน คุณค่าจาก 0 จะกลายเป็น 4 ไปในทันที

ถึงแม้ว่าคุณจะมีรายได้เพียง 10%
แต่จากคน 8 คน รายได้คุณจะมีมากถึง 80%
เมื่อคุณสร้างเครือข่าย ประสบความสำเร็จ

7."คุณค่าที่คุณประเมินตัวเอง จะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่คุณเป็น"
ใน5ปี ธุรกิจจำนวน95% จะล้มเหลว แต่อีก 5% ทีเหลือจะประสบความสำเร็จ
คุณ "มองที่อะไร" ในสองอัตราส่วนนี้ มันคือสิ่งที่กำหนดสิ่งที่คุณเป็น
อีกคำถามหนึ่ง
"การลงทุนทำธุรกิจ" กับ "การขับรถ" อันไหนเสี่ยงกว่ากัน??

8.สอน "การพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ"
"เงินมักจะไหลไปสู่ผู้นำ ถ้าคุณต้องการเงินมากๆ
คุณต้องพัฒนาความเป็นผู้นำให้มากขึ้น"

ทักษะการเป็นผู้นำเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในโรงเรียนนี้
"ถ้าหากคุณเป็นผู้นำของทีม และคุณจะต้องเป็นคนที่ฉลาดที่สุด
ในทีมเสมอ ทีมของคุณก็จะมีปัญหา"

การสื่อสารของผู้นำจะสื่อสาร "จากจิตวิญญาณสู่จิตวิญญาณ"



คนที่ประสบความสำเร็จ เทียบกับคนที่มีคุณค่าไม่ได้
ไอน์สไตน์

การตลาดแบบเครือข่าย แม้จะถูกมองด้วยสายตาที่ไม่ดีนักจากหลายๆคน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ  มีรายชื่อของคนทำธุรกิจเครือข่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน
ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายขนาดเล็ก ลงทุนไม่ถึงพันบาท
จนถึงขนาดลงทุนหลักแสน
จากสถิติของสมาคมเครือข่ายขายตรง มีคนทำธุรกิจเครือข่ายในประเทศไทย
 เกือบ 25 ล้านคน ด้วยเหตุเพราะว่า

1.ผู้คนต้องการที่จะมีอิสรภาพมากขึ้น
2.ผู้คนต้องการความร่ำรวยมากขึ้น
3.กองทุนประกันสังคมมีแนวโน้มว่าจะจ่ายเบี้ยคนชราไม่ได้ในอนาคต
4.ผู้คนจะเริ่มตระหนักถึงสิ่งต่างๆมากขึ้น
ด้วยโลกแห่งอินเตอร์เนตจะนำพาข่าวสารมาให้ผู้คนได้เป็นจำนวนวันละมากๆ
การคาดการณ์สิ่งต่างๆจะง่ายขึ้น และนำไปสู่การตัดสินใจที่ง่ายขึ้นไปด้วย
5.การตื่นตัวจะมีมากขึ้น เพราะค่าเงินเฟ้อที่ทุกๆ 24 ปี
ไม่ว่าเงินคุณจะมีเท่าไหร่ มันจะลดค่าลงครึ่งหนึ่ง
ทุก25ปีหรือมากว่า จะมีโอกาสเกิดวิกฤตเสรษฐกิจขึ้นเสมอๆ
การได้เริ่มทำธุรกิจเครือข่ายก่อนจะนับเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด

ขั้นตอนการเริ่มทำธุรกิจเครือข่าย
1.ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
2.กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะทุ่มเทจริงจังกี่ปี
3.กำหนดเป้าหมายที่คุณต้องการ ว่าจะมีรายได้ต่อเดือนที่เท่าไหร่
4.ยึดมั่นกับเป้าหมาย และจง "อย่าเปลี่ยนใจ"
5.ศึกษาอย่างจริงจังให้ราวกับว่านี่คือโอกาสสุดท้ายในชีวิต
6.ฝันให้ใหญ่ แม้ไม่ถึงจุดหมาย แต่มันจะไปถึงครึ่งทางหรือก็เกือบถึงเสมอ

พี่เลี้ยงที่ดีที่สุดในโลกพร้อมอยู่แล้วที่จะให้คำแนะนำคุณ

ถ้าคุณอยากบินแบบอินทรี จงเข้าไปอยู่ในฝูงอินทรี




ถ้าคุณอยากบินแบบอินทรี แต่เข้าไปอยู่ในฝูงเป็ด
ไม่มีวันที่คุณจะบินแบบอินทรีได้

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com

-----------------------------

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/



การตลาดบนFaceBookจะเป็นเรื่องง่ายเมื่อคุณมีเจ้าสิ่งนี้...


http://bit.ly/SociaConlPro

Social Connect Pro


“ถ้าผมบอกว่า ผมมีโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณ
ประหยัดค่าโฆษณาลงกว่า 50%

หรือหากคุณโปรโมทโฆษณาด้วยตนเอง
โปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณ
ใช้แรงและเวลาในการโปรโมทน้อยลง มากกว่า 50%

ในขณะที่ขายได้มากขึ้น
และมีผลลัพธ์สูงขึ้น อย่างชัดเจน!
โดยใช้ต้นทุนไม่ถึง 250 บาท

คุณไม่สนใจเลยหรือครับ?”

เราขอแนะนำ
social connect box Social Connect Pro
คืออะไร? และทำงานอย่างไร?




โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับใคร?

    ผู้ที่เปิดร้านค้าขายของOnline
    ผู้ที่เป็นAffiliate
    ผู้ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย
    ผู้ที่กำลังทำธุรกิจเครือข่าย


ส่งข้อความแจ้งเตือนnotification
(ขึ้นตรงลูกโลกfacebookของผู้ลงทะเบียน)
รวมทั้งเมื่อคลิ๊กแล้วลิงค์ไปยังหน้าที่ต้องการ ได้ไม่จำกัด
รวมทั้งสามารถส่งอีเมล์หาผู้ลงทะเบียนทั้งหมดไปภายใน3นาที

คงจะไม่เป็นการคุ้มค่า
หากคุณต้องจ่ายค่าคลิ๊กโฆษณาซ้ำๆ
ทุกครั้งที่มีสินค้าตัวใหม่ ที่ต้องการโปรโมทออกมา

และคงจะไม่คุ้มค่ายิ่งกว่า
หากคุณต้องใช้เวลาที่มีค่านั่งโพสต์โปรโมทซ้ำๆ
ขณะที่ได้ผลลัพธ์กลับมาเพียงน้อยนิด

“คุณสามารถเลือกที่จะใช้เวลาที่มีค่า
เริ่มเก็บลิสต์กลุ่มเป้าหมายของคุณตั้งแต่วันนี้
เพื่อคุณจะสามารถมีผู้สั่งซื้อสินค้าเป็นหลักพันชิ้น
โดยใช้เวลาโปรโมทไม่ถึง 5 นาที

อย่าลืมว่า! สิ่งที่มีค่าที่สุดที่จะทำรายได้ให้คุณ…
ไม่ใช่เว็บไซต์ หรือ Social Networkที่คุณมี
แต่คือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่พร้อมจะสั่งซื้อสินค้าของคุณทันทีต่างหาก

ตัดสินใจเข้าร่วมใช้ระบบกับเราวันนี้ทันที
อย่าช้า! เพราะระบบของเราเปิดรับผู้ใช้งาน เพียง 200 ท่าน เท่านั้น
เต็มแล้วปิดรับ ทันที

คลิ๊กปุ่มสั่งซื้อด้านล่างนี้ทันที

http://bit.ly/SociaConlPro

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu


ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/

นิทาน ห่านไข่ทองคำ กับ การบริหารเงินให้รวย !!!



นิทาน ห่านไข่ทองคำ กับ การบริหารเงินให้รวย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...

มีชาวนาผู้ยากไร้คนหนึ่งได้ห่านตัวหนึ่งมาจากนางฟ้าผู้ใจดี
และให้พรว่า "ห่านตัวนี้ จะมีไข่ออกมาเป็นทองคำวันละ  1 ฟองทุกวัน"

ชาวนาดีใจมาก เขาได้มารอในตอนเช้าของวันใหม่
และได้พบกับไข่ห่านทองคำบริสุทธิ์ จริงๆ

เขานำไข่นั้นไปขาย และจัดเลี้ยงฉลองกันยิ่งใหญ่
และวันต่อๆมาก็ได้พบไข่อีกทุกวัน จนฐานะเขาดีขึ้น

ด้วยความโลภเข้าครอบงำ เขาคิดว่า ในท้องของห่านตัวนั้น
ต้องมีไข่อยู่เป็นจำนวนมากแน่ๆ
เขาจะรอแค่วันละฟองต่อไปไม่ไหวแล้ว

เขาจึงจับห่านมาผ่าท้องมันออก แต่ก็ไม่พบไข่ทองคำใดๆ
หลังจากห่านตายไป เขาก็ไม่มีไข่ทองคำไปขายอีก
หลังจากนั้นฐานะเขาก็ตกต่ำลงและกลายเป็นชาวนาตามเดิม

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "จงอย่าฆ่าห่านของตัวเอง"

"เจ้าห่านตัวนี้ก็เหมือนเงินของหนู
ถ้าหากหนูเอาเงินไป 'ลงทุน' หนูก็จะได้ 'ดอกเบี้ย'
และดอกเบี้ยที่ออกมาก็คือ 'ไข่ทองคำ'ไงจ๊ะ"

มหาเศรษฐี โกลด์ชแตร์น พูดอธบายให้ หนู คีร่า ฟัง
 จากในหนังสือ "หมาน้อย สอนรวย"


อธิบายถึงการใช้เงินเพื่อลงทุน และสามารถอยูได้ด้วยดอกเบี้ย
และไม่จำเป็นที่จะต้องไป "แตะต้องเงินทุน" ก้อนนั้น
แต่ห่านตัวนั้นจะกลับใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป

หนังสืออ่านง่ายๆ แนวนิยาย ที่สามารถอ่านให้ลูกฟังก่อนนอนได้
ช่วยเตรียมแนวคิดด้านการเงินของลูกๆได้ ที่ควรซื้อไปอ่านให้ลูกๆฟัง

"เงิน" ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย อย่างที่หลายๆคนที่คิดว่า
"คนที่มีเงินมากคือคนโกงหรือคนชั่ว"
แต่สิ่งที่ชั่วร้ายคือ "คนที่ใช้เงิน" ไปในทางที่ผิดๆ
เงินจะส่งเสริมตัวตนของคุณให้"โดเด่น"ยิ่งขึ้นในสิ่งที่คุณเป็น

อย่าคนที่ชอบช่วยเหลือคน เมื่อมีเงินมากขึ้น
ก็จะสามารถช่วยเหลือคนได้มากขึ้น
คนที่ชอบเข้าวัดบริจาคสร้างวัด วัดก็จะเสร็จเร็วขึ้น ใหญ่ขึ้น
ชอบช่วยเหลือคนไร้การศึกษา การสามารถช่วยให้มีการศึกษาได้มากขึ้น
ในทางกลับกันก็เช่นเดียวกัน เมื่อใช้ไปในทางชั่วร้าย ก้จะร้ายมากกว่าเก่า

หลัการบริหารการเงิน ตามหลักการ "ห่านทองคำ"

1.หาเหตุผลให้ได้ 10 ข้อว่าทำไมต้องรวย
เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตหรอก แต่ลองสักกะตังค์แดงเดียวสิ
จะกลายเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาทันที แต่ถ้าต้องการมีเงินเยะๆ
คิดหาเหตุผล 10 ที่ สำคัญกับคุณ คนที่คุณรัก และต่อสังคม
เขียนไว้ในกระดาษหรือสมุดสักเล่มนึง

2.เลือกเหตุผลที่สำคัญที่สุด 3 ข้อนั้นให้เป็นเป้าหมาย
เลือก 3 ข้อที่สำคัญต่อคุณมากๆ ถึงมากที่สุด
ที่เป็นเหตุผลให้คุณต้องมีเงินมากๆ
เอา 3ข้อนั้นตั้งไว้ เป็นเป้าหมาย ของคุณ เขียน และ แปะมันไว้ข้างฝา
หรือจุดที่คุณเห็นได้ชัดเจน และง่ายที่สุด อ่านมันทุกวัน
เขียนให้มันอยู่ในรูปของปัจจุบันว่าคุณได้สิ่งนั้นแล้ว เช่น
"ฉันอยู่ในบ้านหลังใหญ่ราคาสิบล้านบาท" เป็นต้น

3.จินตนาการ ให้เห็นถึงภาพของความสำเร็จ
จินตนาการให้เห็นภาพถึงสิ่งที่ต้องการของคุณ
ถ้าไม่เห็นภาพ หาภาพมาแปะไว้ อยากได้เงินหารูปเงินเยอะๆมาแปะไว้
อยากได้รถได้บ้าน ก็หารูปของสิ่งเหล่านั้นมา
คิดจินตาการถึงมัน อย่างน้อยวันละ 10 นาที

4.เริ่มลงมือเขียนบันทึกความสำเร็จไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กแค่ไหนก็ตาม
บันทึกสิ่งที่ทำเพื่อไปสู่จุดเป้าหมาย แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อย
วันละ 5 หรือ มากกว่า หรือวันละ 1 อย่าง ก็ยังดีกว่าน้อยกว่านั้น
สิ่งสำคัญเล้กๆน้อยเหล่านี้จะเป็นตัวสร้าง "ความเชื่อมั่นในตัวเอง"
กลับมาอ่านมันเสมอๆ เมื่อพบว่ามีสิ่งใดพาคุณวอกแวกไปจากจุดหมาย
หรือ ต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ "คุณคิดว่ามันยาก"

5.กฏ 4 ของการใช้เงินเป็น
 -ใครก็ตามที่มีหนี้สิน ต้องโยนบัตรเครดิตทิ้งให้หมด
คนส่วนใหญ่ที่มีบัตรเครดิตมักจะใช้จ่ายเงินมากกว่าที่จ่ายด้วยเงินสด
 -ควรจ่ายคืนหนี้ให้น้อยที่สุด หรือชำระขั้นต่ำ
ยิ่งผ่อนชำระสูงเท่าไหร่ก็จะมีเงินเหลือใช้ต่อเดือนน้อยเท่านั้น
ข้อนี้อาจขัดใจหลายๆคน หมดหนี้เร็วๆไม่ดีหรือ ใช่ดีครับ
แต่เมื่อคุณจ่ายหนี้เยอะ คุณจะเหลือเงินน้อยและจะนำไปสู่ข้อต่อไปคือ
 -กฎ 50-50 ครึ่งหนึ่งของรายได้ ควรเก็บไว้ "เลี้ยงห่านทองคำ"
อีกครึ่งหนึ่งไว้ใช้จ่ายอุปโถคและบริโถค และหยุดสร้างหนี้ใหม่ทันที
 -จำเป็นแน่หรือที่จะจ่ายออกไป คิดก่อนใช้จ่ายเสมอๆว่า
สิ่งที่เราจะจ่ายนี้ จำเป็นหรือไม่ ไม่จำเป็นก็ไม่ควรจ่าย

6.เริ่มต้นลงทุน กล้าทำ ในสิ่งที่ กลัว
ลงทุนตาม "หลักการห่านทองคำ"
เปิดบัญชีใหม่เพื่อใช้เก็บเงินส่วนนี้
ห้ามแตะต้องหรือนำไปใช้ส่วนตัวโดยเด็ดขาด
และฝากเพิ่มเติมเข้าไปทุกเดือนอย่างสม่าเสมอ
เมื่อยังไม่พบวิธีการที่จะลงทุนใดๆก็ให้เก็บเอาไว้ก่อน
เลี้ยงห่านของคุณให้โตยิ่งขึ้นๆ แล้วเมื่อคุณพบหนทางสร้างรายได้
จึงค่อยนำส่วนนี้ไปใช้ในการลงทุน
(ในหนังสือเล่นนี้ จะสอนลงทุนในการเล่นหุ้นกองทุน)

อย่ากลัวการลงทุน เพราะ คนเรามักกลัวนู้นกลัวนี่
ชอบคิดไปต่างๆนาๆ ว่าจะแย่อย่างนั้น หรือแย่อย่างนี้
"ยิ่งคิดมาก ก็จะยิ่งล้มเหลวมาก"
แนะนำให้กลับไปอ่านบันทึกความสำเร็จของคุณซะ
ถ้ายังไม่เขียน ก็รีบเขียนซะตั้งแต่เดี๋ยวนี้

7.เรียนรู้ วิธีการความเสี่ยง
ความเสี่ยง เกิดจาก "ความไม่รู้" ในการลงทุนนั้นๆ
เมื่อเราศึกษาการลงทุนใดและมั่นใจว่ารู้เยอะพอสมควร
การเริ่มลงทุนไม่ควรลงทุนทีเดียวทั้งหมด
ควรแบ่งลงทุน เพื่อให้มีเงินสดอยู่เสมอ
แม้แต่การฝากเงินในธนาคารก็ใช่ว่าไม่มีความเสี่ยง
เพราะ "อัตราเงินเฟ้อ" จะคอยลดค่าของเงินคุณอยู่เสมอๆ
โดยใช้ กฎ72 หารด้วยอัตราเงินเฟ้อ ได้เท่าไหร่ ก็ทำนายได้ว่า
อีกกี่ปีเงินที่คุณมีอยู่ในตอนนี้
จะลดค่าลงเหลือครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ เช่น
อัตราเงินเฟ้อ 3.5% เมื่อเอาไปหาร 72 จะพบว่า
ไม่ว่าคุณมีเงินเท่าไหร่ อีก 20.5 ปี
เงินในธนาคารของคุณจะเหลือค่าแค่ครึ่งหนึ่ง(ยังไม่หักภาษี)
"ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่การมีความรู้ ช่วยลดความเสี่ยงได้"

หนังสือเนื้อหาน่ารักๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด แนวคิดการลงทุน
ยิ่งทำเป็นเหมือนนิยาย ยิ่งควรแก่การเอาไปอ่านให้ลูกหลานฟัง
ผมคนนึงหละที่จะอ่านให้ลูกฟังก่อนเลย

แม้เนื้อหาจะเกี่ยวกับการเงินและการลงทุน
แต่ตอนจบก็พาเอาน้ำตาไหลได้เหมือนกัน ครบเครื่องจริงๆครับ
ทั้งความรู้และความบันเทิง ซึ้งกินใจ ปราบปลื้มกับความสำเร็จของ
หนู "คีร่า" และหมาน้อย "มันนี่"
จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยครับ


สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/

me!!!

ฝันร้ายของ "เทคโนโลยี และ นวัตกรรม"


ทางออกของธุรกิจด้าน เทคโนโลยี และ นวัตกรรม

สิ่งต่างๆในโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา
ชีวิตของมนุษย์ สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น ด้วยสิ่งที่เรียกว่า
"เทคโนโลยี หรือ นวัตกรรม"
แต่จากการวิเคราะห์ทางสถิติของ Chric Anderson ใน TED.com
เขาได้วิเคราะห์ว่า

ยิ่งเทคโนโลยีก้าวไกลเพียงใด "ราคาของเทคโนโลยี" นั้น
กลับสวนทางกับ "การเข้าถึง" ในเทคโนโลยี นั้นๆ
ดูจะไม่เป็นธรรมกับคนที่คิดสิ่งต่างๆเหล่านั้นขึ้นมาเลย
ที่กว่าจะสร้างสรรค์สิ่งใดขึ้นมา ใช้เวลากว่าหลายๆปี
แต่มีอายุของการ "เก็บเกี่ยว" ช่างสั้นนัก

เขาได้ยกตัวอย่างของ DVD ที่เมื่อตอนเปิดตัวนั้น
"ราคาสูงมาก และมีคนเข้าถึงได้น้อยมาก"
แต่เพียงเวลาไม่ถึงปีกี่ปี เมื่อมันสามารถผลิตได้มากขึ้น
คนเข้าถึงได้ขึ้น แต่ราคา "กลับถูกลงมาก"
ยิ่งเมื่อตอนช่วงหลังมี BlueRay เทคโนโลยีเข้ามา
ราคาของ DVD ยิ่งถูกลงกว่าเดิมมาก
แม้ Blueray จะไม่เป็นที่นิยมในระยะต่อมาก็ตาม

Critical Price
หมายถึง "จุดที่เหมาะสมของราคา" ของเทคโนโลยีนั้นๆ
เมื่อถึงจุดนี้ ไม่ว่าจะผลิตเทคโนโลยีมาเท่าไหร่ จะสามารถขายได้ทั้งหมด
แต่เมื่อการเข้าถึงที่มากขึ้นกว่านี้ ราคาจะเริ่มลดลง
และข่าวที่ร้ายกว่านั้นคือ จะเริ่มขายไม่ได้

เขาได้เสนอแนะลำดับขั้น 4 ขั้นตอน
เพื่อนำไปใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดได้ในระยะยาว

Setting the right price
การตั้งราคาที่เหมาะสม
Gaining market share
ดึงดูดส่วนแบ่งการตลาด
Displacing an established technology
แทนที่เทคโนโลยีที่จัดตั้งขึ้น
Becoming ubiquitous
กลายเป็นที่แพร่หลาย

หากเทคโนโลยีใดที่สามารถแทนที่สิ่งที่มีอยู่เดิมได้
ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลของความคิดนั้นได้อย่างยาวนาน
แต่ก็ไม่ได้เป็นได้ในทุกเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมทุกชิ้นไป

สามารถดูต้นฉบับที่ TED.com

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/

6 องค์ประกอบที่ทำให้ธุรกิจเครือข่ายประสบความสำเร็จ


องค์ประกอบสำคัญ 6 ส่วนที่นำไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายออนไลน์

สวัสดีครับ

เท่าที่ผมศึกษามาจากอาจารย์การทำธุรกิจเครือข่ายหลายๆท่าน
มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า "วิชาของแต่ละคน" ออกมาเป็นสูตรต่างๆ
ให้คนที่มาเรียนกับเขา ได้ศึกษาและเรียนรู้

ผมได้ไปศึกษากับอาจารย์ท่านหนึ่ง
ท่านได้ไปเรียนรู้มากจากหลายๆแห่งไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย
เรียกว่าลงทุนหลายแสนบาทเพื่อไปเรียนคอร์สหนึ่งคอร์สในต่างประเทศ
และได้นำมาสอนเรา ท่านได้ศึกษาและพบว่า
มันมีสิ่งที่เรียกว่า "องค์ประกอบพื้นฐาน"
ที่ไม่ว่าใครจะมีหลักสูตรแบบไหน เนื้อหาวิชาเป็นอย่างไร
จะมีข้อศึกษาที่ให้เรียนกี่ข้อก็ตาม
สามารถรวมเนื้อหาทั้งหมดแล้ว
ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป และรวมสิ่งที่เหมือนกันเข้ามา
สรุปได้เป็น องค์ประกอบพื้นฐานได้ 6 อย่างที่ต้องมี
ขอเน้นย้ำเลยนะครับว่า "ต้องมี"

1.ที่ปรึกษา หรือ Mentor(corch)
คุณคิดว่าคุณเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายแล้ว ถ้าทำและเรียนรู้ทุกอย่างเอง
ท่านคิดว่าจะต้องใช้เวลากี่ปี ถึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้
แค่สิ่งนี้ นักธุรกิจเครือข่ายเกือบทั้งหมดที่ล้มเหลวนั้นไม่มีกัน
คนที่คุณเรียกว่า "อัพไลน์" บางครั้งก็ไม่สามารถเป็น "โค้ช" ให้คุณได้

2.Attraction Maketing(การตลาดแบบดึงดูด)
คุณคิดว่าในชีวิตท่านมีคนที่รู้จักในชีวิตสักกี่คน สัก200คน
แล้วคนรู้จักท่านเหล่านั้นเขาอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นไหม แน่นอนทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
แต่เมื่อท่านไปแนะนำเสนอธุรกิจแล้วท่านว่ามีกี่คนที่จะทำกับคุณ
คนที่ยิ่งใกล้ชิดคุณมากเท่าไหร่ รู้จักตัวตนคุณมากเท่าไหร่ เขายิ่งไม่เชื่อคุณมากเท่านั้น
และที่สำคัญ "ไม่เชื่อและไม่ฟังในสิ่งที่คุณพูดด้วย"
สิ่งที่ดีของการตลาดแบบึงดูดคือ จะคัดกรองผู้ที่นใจทำธุรกิจจริงๆ และต้องการที่จะเรียนรู้ด้วย
ตัวเรามีหน้าที่ "คัดคนออก" เท่านั้น
ไม่ใช่ว่าคนที่คัดออกนั้นเราไม่อยากให้เขาร่วมทำธุรกิจนะครับ
แต่เขายังไม่พร้อมที่จะทำธุรกิจ เมื่อเอาเขามาก็จะเสียเงินเปล่าๆ เสียเวลาเปล่า
เพียงแต่แนะนำให้เขาไปศึกษาเพิ่มเติมและมีความมุ่งมั่นมากกว่านี้เท่านั้นเอง

3.Team (ระดับเดียวกัน,ระดับผู้นำ)
งานใหญ่ๆมักไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยเพียงคนๆเดียว
แต่เรามือใหม่นี่ จะไปหาทีมที่ไหน
เมื่อเริ่มแรกเราอาจต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมด
แต่ก็ไม่มีใคร ที่เก่งไปทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
แต่เมื่อได้คนมาแล้วบางแล้ว ควรจะหาจุดเด่นของแต่ละคน นำมาสร้างทีมของคุณเอง
ไม่ใช่ว่า วันหนึ่งคุณมีดาวน์ไลน์ 200 คน แต่ก็ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
และเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้กับผู้นำคนอื่นๆเสมอๆในองค์กร
แบ่งปันความรู้กันเพื่อมาสร้างทีมให้แข็งแกร่ง

4.ช่องทางสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง
ไม่จำเป็นว่าคุณต้องขายแต่สินค้าของบริษัทอย่างเดียวเท่านั้น
ควรมีช่องทางรายได้ที่หลากหลาย แต่สิ่งที่เราขายมันควรเกี่ยวข้องกับในสิ่งที่เราทำ
เช่นการทำคอร์สสอนการทำการตลาดออกมาขาย ขายaffiliate
ขายระบบที่เราใช้อยู่ โฮสที่เราใช้ แม้แต่กาารติดป้ายโฆษณาที่บล็อคของเรา
ควรมีอย่างน้อย 20 ช่องทาง แต่ละช่องทางเล็กๆน้อยๆเหล่านี้
อย่างน้อยที่สุดจะเป็นรายได้ที่สามารถทำให้มีค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดได้ต่อไป

5.Maketing
ที่สำคัญมากๆคือ  การตลาด แตกต่างจาก การขาย
หลายๆคนที่เป็นมือใหม่มักถูกสอนให้เอาสินค้าบริษัทหรือโอกาสธุรกิจมาโพส
ซึ่งนั้นไม่ใช่ "การทำการตลาด" แต่มันคือ "การขาย"
การตลาดคือการทำให้คนหมู่มาก "รู้ ในสิ่งที่เราทำอยู่และตัวตนของเรา"
แค่ให้เขารู้และสร้างช่องทางติดตามให้เขาถ้าเขาสนใจในสิ่งที่เราเสนอ
การขายจะเกิดขึ้นเมื่อลูกค้าต้องการซื้อเท่านั้น
"คนเราไม่ชอบถูกขาย แต่ถ้าคนมีเงินมักจะชอบซื้อ"

6.System(Autometic)
คนส่วนใหญ่มักจะไปยุ่งยากกับสิ่งที่ค่อยจำเป็นจริงๆที่ทำแล้วไม่เกิดผลลัพธ์
ตามหลักพาเลโต 80/20 อะไรที่สามารถใช้ระบบแทนได้ควรที่จะใช้ระบบ
อะไรที่ระบบไม่สามารถทำเองได้และจำเป็นต้องทำ ควรทำเอง
แต่ควรเอาเวลาส่วนใหญ่ 80% ไปทำในสิ่งที่เกิดผลลัพธ์จริงๆ
เช่นการคอนเฟิร์มคำสั่งซื้อสินค้า หรือการสัมพาษ์ทเเพื่อรับคนเข้าทำธุรกิจ
ทุกอย่างควรจะAutomateทั้งหมด
ทั้งการโฆษณา การส่งอีเมล์สร้างความสัมพันธ์ การแนะนำช่องทางโอนเงิน
หรือการติดต่อขอเข้าร่วมทำธูรกิจ แม้แต่การสอนทีมงานใหม่ก็ควรใช้ระบบทำ
เรามีแค่หน้าที่เซทระบบและให้ระบบมันทำงานของมันไปเท่านั้นเอง

ผมทำวิดีโอสั้นๆอธิบายในส่วนขององค์ประกอบ
ว่าทำไมถึง "ต้องมี" ทั้ง 6 ส่วนนี้
และจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร



สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/

8 ขั้นตอนสร้างรายได้ 2,000บาท/วัน

http://bit.ly/2000adayByFB



8 ขั้นตอนสร้างรายได้2,000บาท/วัน โดยใช้เพียงแค่facebook

E-bookเล่มแรกที่การันตีผลลัพธ์ อ่านจบทำเงินไม่ได้ คืนเงิน100%
คุณอยากที่จะนั่งทำงานอยู่บ้าน หน้าคอมพิวเตอร์สบายๆ 2-3ชั่วโมง/วัน
และมีรายได้ที่เยอะมากพอที่จะจ่ายรายจ่ายทั้งหมด ใช่หรือไม่?

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ต้องทำงานหนัก แลกมากับรายได้อันน้อยนิด
แต่วันนี้คุณมีโอกาสที่จะทำมันให้แตกต่างจากคนอื่นๆ

คุณอาจจะคิดอยู่ว่าเป็นไปไม่ได้
งานสบายๆแล้วได้เงินเยอะไม่เคยมีอยู่จริง และออกจากเว็บไป

คิดอย่างนี้ไม่ผิดครับ
แต่แล้วถ้ามันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดล่ะ
ก็แล้วถ้ามันสามารถทำเงินได้ง่ายจริงๆ
คุณกำลังละทิ้งโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตคุณไปเลยนะครับ

ดูข้อมูลด้านล่างนี้ให้จบ
แล้วคุณค่อยตัดสินครับ ว่ามันใช่โอกาสของคุณหรือไม่?

ปัจจุบันผมมีรายได้ต่อวันเฉลี่ยตกวันละ 2,000บาท
จากการทำสิ่งๆหนึ่ง ซึ่งสนุกด้วย นั่นก็คือการเล่นfacebook
โดยที่ผมไม่ต้องลงทุนสักบาท และไม่ต้องสต็อคสินค้าใดๆทั้งสิ้นด้วย
และในหนังสือเล่มนี้ ผมจะสอนคุณทำสิ่งนี้ครับ
ใช่แล้ว! ผมจะสอนคุณสร้างรายได้2,000บาท/วัน

นี่คือวิธีที่ผมอยากจะช่วยคุณ ผมได้นำวิธีการทั้งหมดที่ผมทำ
มาถ่ายทอดลงในE-bookเล่มหนึ่ง

ซึ่งก็คือเล่มนี้ครับ




ผมถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างทุกขั้นตอนที่ผมทำ และได้2,000บาท/วัน
อย่างเป็นStepเป็นขั้นเป็นตอนลงในหนังสือเล่มนี้
คุณแค่อ่านและทำตามไป และคุณก็สามารถที่จะได้ผลลัพธ์แบบผม
ไม่มีสิ่งที่ยาก แค่คลิ๊กไปตามหนังสือบอก อย่างเป็นระบบ

สิ่งที่คุณจะได้ในหนังสือเล่มนี้

1.8ขั้นตอนสร้างรายได้2,000บาท/วัน โดยใช้เพียงแค่facebook
2.หยุดทำงานแต่ยังสามารถมีรายได้2,000บาท/วัน ทำอย่างไร?
3.อัพเดทข้อมูลการทำงานให้ตลอดชีพ
ตอนนี้อัพเดทออกมาทั้งหมด3เล่มแล้วครับ ประเมินมูลค่าไม่ได้


ไม่จำเป็นต้องมีทฤษฎีเยอะๆ ขอแค่ให้มันทำง่ายและได้ผลก็พอจริงไหม?

ซึ่งผมเชื่อมั่น100%ว่าถ้าคุณอ่านและนำไปปฏิบัติ
คุณสามารถทำเงินได้แน่นอนครับ

สิ่งที่คุณจะต้องลงทุนคือเวลา1-2ชั่วโมงเพื่ออ่านหนังสือให้จบ
และเวลา2-3ชั่วโมงต่อวัน ทำในสิ่งที่หนังสือบอก
เพื่อแลกกับรายได้มหาศาล ที่คุณจะได้รับ

ผมเชื่อมั่นในคุณภาพของหนังสือที่ผมเขียน ดังนั้น…
ผมจะการันตีคุณภาพของหนังสือให้คุณครับ

หากคุณอ่านหนังสือของผมจบแล้ว
72ชั่วโมง หลังจากนั้น คุณนำมันมาปฏิบัติ
และไม่สามารถสร้างรายได้สักบาทเดียว
ผมยินดีคืนเงินค่าหนังสือให้คุณ 100%เต็มครับ

ไม่มีอะไรจะต้องเสีย หากหนังสือไม่เวิร์ค
คุณสร้างรายได้ไม่ได้ ไม่ต้องจ่ายสักบาทครับ

เพราะผมจัดเต็มกับหนังสือเล่มนี้
ไม่มีกั๊กความรู้ หรือทำให้คุณหลงทางใดๆทั้งสิ้น
และผมเชื่อว่าถึงคุณจ่ายราคานี้ไม่ถึง1เดือน
คุณนำไปปฏิบัติ คุณก็ได้กำไรไปแล้วไม่รู้กี่เท่าตัวครับ

ถูกมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่คุณจะสามารถสร้างได้ต่อจากนี้แล้ว
ไปดูหนัง กินข้าวโพดคั่วยังจ่ายแพงกว่านี้

ผมชอบคนที่กล้าลงมือทำกล้าตัดสินใจครับ
และหากคุณตัดสินใจสั่งซื้อมันในตอนนี้
ผมมีโบนัสแถมให้คุณในเล่มเป็นพิเศษด้วยครับ

ประเมินมูลค่าไม่ได้ !

เพราะมันจะสามารถทำให้คุณไปต่อยอดได้เป็นหลักแสนบาท
ถ้าคุณได้นำมันไปใช้จริง

คลิกที่นี่ครับ
http://bit.ly/2000adayByFB

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/

คิดบวก..ชีวิตบวก

คิดบวก..ชีวิตบวก



เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ

เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ

เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต

เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ(perfectionist)

เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
  
เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงมีความหมาย

เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิต

เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี

เวลาเจอความพลัดพราก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง

เวลาเจอลูกหัวดื้อ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสทองของการพิสูจนความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง

เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพานพบ

เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดังใจหวัง

เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง

เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม

เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์

เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด

เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบททดสอบว่าที่ "มารไม่มีบารมีไม่เกิด"

เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม "ในวิกฤตย่อมมีโอกาส"

เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต

เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์
                     
                                                                                                     ท่าน ว.วชิรเมที

เอาเก็บไว้อ่านเวลาเจอสิ่งร้ายๆเข้ามาในชีวิต เพราะ สิ่งดี และสิ่งร้าย 
จะวนเวียนเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

ตลอดที่ยังมีลมหายใจอยู่ เพื่อที่จะพิสูจน์ ความดีงาม ของชีวิตนี้

 สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
Line:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu


ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com/
 
Somphong Chanawong © 2010 | Designed by Chica Blogger | Back to top