ทำธุรกิจเครือข่ายแล้วล้มเหลวซ้ำซาก เพราะ...




ทำธุรกิจเครือข่ายแล้วล้มเหลวซ้ำซาก เพราะขาด...

ข้อดีอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจเครือข่าย
อย่างหนึ่งก็คือ การทำให้ได้รู้จักบุคคลหลากหลายอาชีพมากๆ
ตั้งแต่คนกวาดถนน ยาม นักศึกษา ตำรวจ ทหาร ดารา นางงาม นักการเมือง
ต่างก็หลายเหตุผลของการทำธุรกิจเครือข่าย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจคือ
เขาเหล่านั้นส่วนใหญ่มาทำ เพราะ "ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง"

ด้วยความโชคดีก็ได้นะครับ ทำให้ผมได้รู้จักกับบุคคลท่านหนึ่ง
ซึ่งผมไม่สามารถเปิดเผยชื่อของท่านได้นะครับ
เอาเป็นว่า ท่านทำธุรกิจหลายธุรกิจอยู่แล้ว ปีๆนึงก็มีรายได้หลักพันล้าน
แต่ด้วยความอยากรู้ และชอบการศึกษาโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย
จึงได้มาลองทำธุรกิจเครือข่าย
เพราะท่านเห็นว่า ธุรกิจเครือข่าย

"ก็เป็นอาชีพสุจริตอันหนี่ง เป็นช่องอันหนึ่งที่ทำให้เป็นนักธุรกิจได้
โดยที่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำมากๆ ความเสี่ยงก็ต่ำ
เทียบกับธุรกิจทั่วไป ที่ต้องสต็อกสินค้า สินค้าที่จะซื้อมาขายไป
สินค้าคุณภาพไม่ดีก็ต้องไปตามแก้ไข แบกภาระต้นทุน
แม้แต่การเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ก็ยังมีความเสี่ยง

ส่วนธุรกิจเครือข่าย บริษัท ก็มีผลิตภัณท์ที่ดีให้อยู่แล้ว
และมีผลตอบแทนในการทำงาน ในการกระจายสินค้า ที่สูง
เพราะบริษัทไม่ต้องไปซื้อโฆษณาทางทีวี นาทีนึงก็หลายแสน

เชื่อว่าธุรกิจนี้เปิดโอกาสสำหรับคนทั่วๆไป ดูหลายๆอย่างแล้วก็ลงตัว
เป็นช่องทางในการสร้างฐานะ เพราะได้มากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน

แต่ว่าได้เห็นคนที่ล้มเหลว และไม่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งตัวผมด้วย
ที่ลองทำดูถึงสองตัว ก็ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะแบบออนไลน์
ก็ได้เริ่มทำการแกะรอยว่า อะไรคือสาเหตุ ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้

สิ่งที่เรียนรู้มาคือ เราต้องทำการตลาดให้เป็น
แต่สิ่งที่อัพไลน์แนะนำมาคือการ
สอนให้เราเอาสินค้าไปขาย และเอาแผนไปขาย
สิ่งที่เราลืมคือ เราต้องทำการตลาด บางคนก็รู้ว่าต้องทำการตลาด
แต่ดันเป็นการทำตลาดให้ตัวสินค้าและบริษัท อีกแล้ว!!

ทั้งๆที่จริงๆแล้วที่ถูกต้องควรทำการตลาดเพื่อแบนรด์ ตัวเราเอง
เวลาที่ใครอยากทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ว่ากับบริษัทไหน
เพราะเขาต้องการ เข้าร่วมกับเรา
แต่ถ้าเขาอยากร่วมธุรกิจกับบริษัทไหนสักบริษัทเขาจะร่วมสมัครกับใครก็ได้
แล้วมันจะต่างกันตรงไหน  แผนก็แผนเดียวกัน สินค้าก็ตัวเดียวกัน
เพราะฉะนั้น การที่เขาจะสมัครทำธุรกิจกับเรา
เพราะตัวเรามีคุณค่าบางอย่าง ที่สามารถพาเขาไปสู่ความสำเร็จได้เหมือนกัน
นี่คือที่มาที่เราต้อง
แบนรด์ตัวเราเอง ขายตัวเราเอง ทำการตลาดเพื่อตัวเราเอง
นี่คือสิ่งที่นักธุรกิจ มือใหม่ ไม่รู้ และ กำลังหนักใจ

เพราะผมได้ไปเรียนรู้กับผู้ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ
ทำให้รู้ว่านี่คือ จุดสำคัญ ที่เราต้องเรียนรู้
แล้วก็วนกลับมาที่การเรียนรู้
อย่างที่เราร่ำเรียนมาเพื่อประกอบสาขาวิชาชีพอะไร
ก็เพราะเราอยากจะเป็นในสาขาวิชาชีพนั้นๆ
อยากจะเป็นนักบิน ก็ต้องเรียนรู้ เพื่อเป็นนักบิน
อยากจะเป็นหมอ ก็ต้องเรียนรู้ เพื่อเป็นหมอ
เรียนนิติศาสตร์ ก็เพราะต้องการเป็น ทนาย
การประกอบวิชาชีพอะไร ก็ต้องร่ำเรียนกันมาตั้งแต่ประถม มัธยม ถึงปริญญา

แล้ววันนี้ เราอยากเป็นนักธุรกิจ อยากสร้างความมั่งคั่งจากการทำธุรกิจ
ถามว่า...

"ไม่คิดจะเรียนรู้กันเลยหรอ ไม่คิดจะเรียนรู้การเป็นนักธุรกิจกันเลยหรอ
ไม่คิดจะเรียนรู้การเป็นนักการตลาด แล้วจะทำหรือประสบความสำเร็จได้อย่างไร"


แล้ววันนี้เราจะทำการตลาดแบบออนไลน์
เราจะต้องเอาเทคนิคการทำตลาดบนอินเตอร์
เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ในอินเตอร์เนตมาช่วยเราอีก
หรือใช้สื่อต่างๆ มาช่วยในการทำตลาดบนอินเตอร์เนต
การเขียนอีเมล์ยังไงให้น่าอ่าน เขียนคำโฆษณายังไงให้คนสนใจ
และมีการเทคแอคชั่นให้คนเขาคลิกไปยังเวปไซต์ หรือ สิ่งที่เราอยากให้เขาดู

เป็นการปูและวางแนวทาง ค่อยๆดึงคนที่เขาไม่รู้จักเรา และเราไม่รู้จักเขา
โดยไม่จำเป็นต้องให้เขาซื้อสินค้าหรือทำธุรกิจกับเราในวันแรก
วางแนวทางการเดินให้เขาให้รู้จักเรา และเชื่อถือเรามากขึ้น
สุดท้าย เมื่อความเชื่อถือและความเชื่อมั่นของเขาต่อเรา
เขาจะซื้อสินค้าหรือทำธุรกิจกับเราด้วยตัวของเขาเอง

ทั้งหมดนี้จะว่าไปเป็นเพียง น้ำจิ้ม
เพราะยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องเรียนนรู้อีกเยอะ
ไม่ได้พูดให้กลัว แต่พูดให้ตระหนักถึงว่า

ถ้าอยากจะสร้างฐานะของตัวเราเอง ไม่อยากเป็นลูกจ้างก็ต้องทำธุรกิจ
ถ้าอยากทำธูรกิจอะไรที่ต้นทุนต่ำความเสี่ยงน้อยทำง่ายก็คือธุรกิจเครือข่าย
ถ้าทำธุรกิจเครือข่ายก็ต้องรู้จัการทำตลาด
ถ้าจะทำการตลาดที่เข้าถึงคนหมู่มากก็ทำการตลาดออนไลน์
ถ้าจะทำการตลาดออนไลน์ยังไงให้ประสบความสำเร็จก็ต้องมาเรียนรู้
ถ้าจะเรียนรู้ก็คือเรียนรู้การทำการตลาดและใช้เครื่องมือออนไลน์


ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่ายออนไลนนะครับ"

อีกประเด็นที่สำคัญคือ
"คนเราไม่ชอบการขาย และไม่ชอบการถูกขาย
คนทุกคนจะตัดสินใจซื้อ หรือ เข้าร่วมธุรกิจกับใคร
เขาต้องได้เลือก และตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง"

ขอขอบคุณ ความรู้จากท่าน...มากเลยนะครับ
แม้บทบรรยายนี้ จะนานมากแล้ว แต่ก็ยังใช้ได้ดีอยู่
เพราะทุกวันนี้ ก็ยังเห็นนักธุรกิจเครือข่ายออนไลน์
ยังไม่ได้ไปไหนไกลเกิน ก่อนหน้าที่จะมี facebook มาเลย
แต่ก่อนเป็นอย่างไรเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ต่างกัน
อัพไลน์ ก็ยังสอนเหมือนเดิม 
คนทำเครือข่ายก็ยังมีเปอร์เซนต์ล้มเหลวเท่าเดิม

สร้างนิสัยให้รู้จักการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
เพราะความรู้ คือ พลัง ที่จะพาไปสู่ความสำเร็จครับ

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
IDLine:somphong_0836174620
Blog:http://somphongcha.blogspot.com/
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

THINK & GROW RICH (คิดแล้วรวย)



THINK & GROW RICH (คิดแล้วรวย)

"จะบ้าหรอ แค่คิดเท่านั้นหรอ แล้วจะรวยได้"
หลายคนที่เห็นผมถือหนังสือเล่มนี้ ต่างก็พูดกันแบบนี้
แต่ในนั้นมันไม่ใช่ทั้งหมด ชื่อหนังสืออาจจะบอกว่าให้คิดแล้วจะรวย
แต่มันมีมากกว่าแค่ความคิด หรือเรียกว่า "พลังแห่งความคิด"

กว่า 70ล้านคนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วทำตามที่เขียนไว้
หลายคนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก บางคนทำรายได้เป็นเศรษฐีระดับต้นๆของโลก
โดยนโปเลียนฮิลล์ได้ยกระดับความคิดของพวกเขาเป็นมากกว่าความคิด
ด้วยหลักการแห่งความสำเร็จ 13 ประการ
ที่ได้รับการพิสูจน์จากผู้ประสบความสำเร็จมากมาย
มันจึงไม่ใช่มีค่าแค่หนังพัฒนาตนเองเล่มหนึ่งเท่านั้น
แต่คือ ครู ของ ครู ของผู้ที่เป็นผู้ประสบความสำเร็จมากมายทั่วโลก

โดยนโปเลียนฮิลล์ ได้รับความช่วยเหลือจาก
แอนดรู คาร์เนกี มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน
ติดต่อเพื่อนๆ ที่เป็นมหาเศรษฐีด้วยกันมากกว่า 500 คน
เนื้อหาหลักๆประกอบไปด้วยหลักคิด
เพื่อนำพาเราไปสู่ความมั่งคั่ง ร่ำรวย
นโปเลียน ฮิลล์ ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์ แบบเจาะลึกว่า
อะไรที่เป็นเคล็ดลับความสำเร็จของพวกเขาเหล่านั้น
แล้วนำข้อมูลที่ได้มาสรุปรวบรวมให้เกิดเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา
ซึ่งองค์ประกอบของความร่ำรวยของพวกเขาหลักๆ
ที่ขอหยิบยกมาบางส่วน คือ

พลังความคิด ความคิดของเราคือสินทรัพย์ที่ไม่มีวันหมดสิ้น
ถ้าคุณคิดว่า คุณล้มเหลว คุณก็จะเป็นตามนั้น
ถ้าคุณคิดว่า คุณไม่กล้า คุณก็จะไม่กล้า
คุณต้องคิด ให้ไกลไปให้ถึง
คุณต้องมั่นใจในตัวเอง ก่อน จึงจะได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จ
สงครามชีวิตไม่ได้มุ่งสู่ผู้ที่เข้มแข็งกว่า และ รวดเร็วกว่าเสมอไป
เพราะไม่ช้าก็เร็ว
“ ผู้ชนะที่แท้จริงก็คือ คนที่ คิดว่าเขาทำได้ “

แรงปรารถนา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จทั้งปวง
ศรัทธา จินตนาการและความเชื่อมั่นในความสำเร็จของแรงปรารถนา
คนที่ไม่เปิดมุมมองตัวเองให้กว้างเข้าไว้
ย่อมจำกัดตัวเองให้ทำอะไรอยู่อย่างเดียวตลอดชีวิต
ทั้งความยากไร้และร่ำรวย ล้วนเป็นผลิตผลจากความคิด
สิ่งใดก็ตามที่มนุษย์สามารถคิดและเชื่อ สิ่งนั้นย่อมสำเร็จ
ความคิดไม่มีขีดจำกัด เว้นเสียแต่เรายอมรับว่ามี

คนที่ยอมแพ้ไม่เคยชนะ และ ผู้ชนะไม่เคยยอมแพ้

ทุกครั้งที่พบอุปสรรค ทุกครั้งที่ล้มเหลว 
และทุกครั้งที่เจ็บปวดใจ มันได้ให้กำไรชีวิต
แก่เราเทียบเท่ากันหรืออาจมากกว่าเดิม
ความสุขไม่ได้เกิดมาจากการได้ครอบครองความสุขเท่านั้น
แต่เกิดจากการได้ทำอะไรแล้วมีความสุขด้วย

จงแสดงออกด้วยการกระทำ ก่อนที่จะประกาศให้โลกรู้ถึง สิ่งที่ตั้งใจไว้
บนจุดสูงสุดของบันไดสู่ความสำเร็จ จะมีคนอยู่ไม่มากนัก
ความคิดของมนุษย์เป็นขุมทองที่มากมายมหาศาล
ยิ่งกว่าขุมทองอื่นใดในผืนโลก
ความสำเร็จไม่ต้องการคำอธิบาย และ ความล้มเหลวไม่ยอมรับ คำแก้ตัว
เมื่อเราไม่ใส่ใจกับความยากลำบากที่มันเป็นอยู่ เราก็จะไม่ท้อแท้สิ้นหวัง
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มาจากการเสียสละที่ใหญ่ยิ่ง หาใช่ความเห็นแก่ตัวไม่
จงจำไว้ว่าความมั่งคั่งร่ำรวยที่แท้ของคุณ
ไม่สามารถวัดได้จากสิ่งที่คุณมี แต่วัดได้จากสิ่งที่คุณเป็น

“ผมเจอหนังสือ The Law of Success
กำลังถูกโละในกองกระบะในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง
เล่มหนามากแต่ราคาถูกมาก
ตอนแรกคิดว่าแค่อยากจะเอามาฝึกภาษาอังกฤษ
เพราะตอนนั้นผมเรียนที่รามคำแหง ภาษาก็ไม่ได้เก่งอะไร
พอเริ่มอ่านก็ต้องเปิดดิกชันนารีไปเกือบทุกคำ
แต่พอเข้าใจเนื้อหามันมากขึ้นแล้วรู้สึกว่าสนุกมาก
มันเป็นเรื่องที่หลายคนไม่รู้มาก่อนรวมทั้งผมด้วย
มันดีมากจนผมอยากอยากแบ่งปันสิ่งนี้ให้คนไทยรู้
ผมจึงนำต้นฉบับที่เขียนด้วยมือปึกหนึ่งที่ใช้เวลาแปลทั้งสิ้นกว่า 1 ปี
ไปเสนอสำนักพิมพ์เขาเห็นลายมือแล้วบอกก่อนเลยว่าอ่านไม่ออกต้องไปพิมพ์มา
ผมต้องกลับไปพิมพ์ต้นฉบับด้วยเครื่องพิมพ์ดีดเก่าๆสมัยนั้นใช้เวลาอีกกว่า 6 เดือนกว่าจะเสร็จ”
(ปสงค์อาสา ผู้แปล)

“คนรวยทุกๆคน ล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน
คนรวยจะมีการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
และเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจอะไรแล้วนั้น
การที่จะเปลี่ยนใจพวกเขาได้นั้น ยากมาก” 




เป็นการยากมากที่ มูลนิธินโปเลียน ฮิลล์
จะเอาสัญลักษณ์ที่เป็นทางการค้าของบริษัทใด
มาประทับตราบนปกหนังสือของมูลนิธิทุกเล่ม
มีเพียง Organo Gold บริษัทเดียวเท่านั้นในประวัติศาสตร์
ที่สามารถ เอาสัญลักษณ์ของ บริษัท ไปประทับไว้บนหนังสือเล่มนี้ได้
เพราะการทำงานของที่นี่ ยึดหลัก 13 ข้อของ นโปเลียนฮิลล์ ในการทำงาน
นอกเหนือจากนี้  Organo Gold ยังได้บริจาครายได้ทุกบาท
จากการขายหนังสือเล่มนี้ให้กับมูลนิธินโปเลียน ฮิลล์ อีกด้วย

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
IDLine:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
มูลค่า 3,500 บาท คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com
me!!!

3 วิธีทำธุรกิจเครือข่ายในอินเทอร์เน็ตให้เวิร์ค


3 วิธีทำธุรกิจเครือข่ายในอินเทอร์เน็ตให้เวิร์ค

เพราะเดี๋ยวนี้คนทำธุรกิจเครือข่ายบนโลกของอินเตอร์เนต เยอะเหลือเกิน
เลยอยากจะมาเตือนถึงอันตรายก่อน การทำสิ่งใดๆ บนโลกอินเตอร์เนตของคุณ
เพราะมันจะมีผลกระทบ ไปตลอดชีวิตของคุณทันที

วันนี้ผมจะมาแบ่งปันสิ่งที่เวิร์คมากๆ 
ที่ได้ช่วยผมสร้างธุรกิจจากที่บ้านแล้วได้ผลลัพธ์เกิน 1,000% !

การสร้างธุรกิจเครือข่ายของผมบนอินเทอร์เน็ตนั้น 
ได้กลายเป็น  “วิธีการที่ร้อนแรงที่สุด” 
ในวงการธุรกิจเครือข่ายไปแล้วในขณะนี้! 
มันฟังดูเหมือนเป็นความคิดที่สุดยอด  แต่มันจะทำได้ง่าย…จริงๆหรือ?

ขอผมถามคำถามคุณสักคำถามนะครับว่า 
คุณรู้จักใครสักคนที่ได้สร้างธุรกิจของเขาจนประสบความสำเร็จ 
จากการใช้อินเทอร์เน็ตหรือเปล่าครับ?

เคยรู้จักบ้างไหม?

เอาล่ะครับ…ถ้าคุณเคยใช้เวลาพียง 1 ชั่วโมงในชีวิตของคุณ 
ในการพยายามที่จะสร้างธุรกิจของคุณทางออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ 
คุณอาจจะคิดได้อย่างรวดเร็วแล้วว่า 
มันเป็นเรื่องที่ยากและมีค่าใช้จ่ายที่แพงเกินความจริง!

อินเทอร์เน็ตในตอนนี้นั้น  เต็มไปด้วยนักธุรกิจมากมายที่พยายามยัดเยียด
“ธุรกิจของเขา”
ลงคอหอยทุกๆคนที่ผ่านเข้ามา และทุกๆ 10 คน  
ที่หยุดการโฆษณาธุรกิจของพวกเขาในวันนี้ 
จะมีอีก 20 คนที่เป็นนักธุรกิจเครือข่ายหน้าใหม่ 
ที่พยายามแนะนำธุรกิจของพวกเขาทางออนไลน์ในวันพรุ่งนี้!
ว่ากันง่ายๆว่าในโลกนี้ เป็นโลกของการห้ำหั่นชิงดีกันนั่นเอง

การแข่งขันธุรกิจเครือข่ายออนไลน์

เพราะฉะนั้น…นี่จึงเป็นคำถามเงินล้าน!
คุณจะสร้างธุรกิจออนไลน์อย่างไร?
และที่สำคัญมากๆคือทำให้มันประสบความสำเร็จด้วย???

มันมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน  ในการสร้างธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ของคุณ

     วิธีแรกนั้น แน่นอน “ไม่มีทางเป็นไปได้”
     วิธีที่ 2 นั้น “เวิร์ค”
     และวิธีที่ 3 คือวิธีที่ผมถูกใจมากเป็นที่สุดครับ

วิธีแรก
ของการพยายามที่จะสร้างธุรกิจออนไลน์ของคุณคือ

"การเอาเว็บไซต์ที่บริษัทแจกให้คุณมาทำการตลาด"

โดยคุณใช้โฆษณาแบบ  Pay-Per-Click
อย่าง Google Adword หรือ Facebook PPC
และโปรโมทเว็บไซต์ที่ทุกคนได้ไปและหน้าตาข้อความเหมือนกันหมด 
นี่คือสิ่งที่นักธุรกิจเครือข่ายทั้งหลายทำกัน
ที่น่าเศร้าคือนั่นเป็นการใช้จ่ายที่จะทำให้ตัวคุณเองต้อง “เสียเงิน”
และจนลงไปอย่างเปล่าประโยชน์  และในการทำงานโดยใช้เทคนิคนี้นั้น 
อาจทำให้คุณ ไม่สามารถสปอนเซอร์หรือสมัครใครเข้าร่วมธุรกิจได้เลยแม้แต่คนเดียว!
นักธุรกิจเครือข่ายควรจัดการชีวิตอย่างไร

วิธีที่สอง
วิธีการถัดไปเป็นเทคนิคที่ดี 
โดยคุณจะพบว่านักธุรกิจเครือข่ายที่ทำรายได้สูงๆ 
ต่างมีบล็อกธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นของตนเองทั้งนั้น 
พวกเขาสร้างบล็อกทั่วไปที่เกี่ยวกับการแบ่งปัน
"วิธีการทำธุรกิจเครือข่าย"
สาเหตุของการมีบล็อกของพวกเขาก็คือ 
การนำเสนอและวางตำแหน่งให้ตัวเขาเองอยู่ในสถานะของการเป็นผู้นำ 
โดยพวกเขาสร้างเนื้อหาที่ดีผ่านบทความและวีดีโอ 
เพื่อทำให้ Search Engine
อย่าง Google ค้นหาบล็อกของเขาเจอ 
และทำให้ได้มีผู้คนเข้าชมแบบฟรีๆ

บล็อกเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะส่งเสริม
“ระบบและวิธีการทำการตลาด” 
"วิธีการทำธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จ" 

หรือนอกจากนี้ส่วนใหญ่แล้ว 
นักธุรกิจเหล่านี้ต่างทำงานใน บริษัท MLM เดียวกัน 
และต่างส่งเสริมโปรแกรมพันธมิตรแบบเดียวกัน 
ในขณะที่เทคนิคนี้ทำงานได้ดี  ยังมีอีกหนึ่งปัญหาสำคัญก็คือ
มันอาจจะมีมากกว่า 50 บล็อก  ที่สร้างเนื้อหาออกมาคล้ายกันไปเสียทั้งหมด 
ใช้ key words เดียวกันในการทำให้คนค้นหาเจอและนั่นเอง 
ที่ทำให้มันยากขึ้นที่จะทำให้บล็อกของเรา
ขึ้นมาอยู่เหนือคนอื่นๆและแยกตัวเองออกมาจากเพื่อนร่วมธุรกิจของคุณ
แต่ขอย้ำอีกครั้งว่า 
เทคนิคแบบนี้เป็นเทคนิคที่ดีกว่าการโปรโมทเว็บไซต์ของบริษัทเป็นล้านเท่า!
เพราะเมื่อคุณมีบล็อกของคุณเอง 
คุณจะสามารถสร้างกระแสเงินสดและรายได้จากหลากหลายช่องทาง 
แต่กับเว็บไซต์ที่บริษัทให้คุณมานั้น  คุณจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลย

วิธีที่สาม
อีกกลยุทธ์ที่ดีมากๆก็คือ
การสร้างเว็บไซต์ของทีม
เหมือนอย่างเว็บ กาแฟทองคำ.com
ที่นักธุรกิจเครือข่ายที่เป็นสมาชิกนั้น
สามารถนำไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงมากๆทันที
เพราะเป็นเว็บที่ให้ข้อมูลจากนักธุรกิจที่เป็นผู้นำ และรู้จริง
นำเสนอในมุมของนักธุรกิจ ไม่ใช่บริษัท
ที่สำคัญ!  เว็บไซต์เดียวนี้ สามารถรองรับสมาชิกแบบไม่จำกัด
ทำให้สมาชิกใหม่ สามารถทำการขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและง่ายกว่าเดิมมากๆทันที
แต่ก็ยังมีกลยุทธ์ที่เป็นความลับอยู่

วิธีการทำธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จ
ในทางปฏิบัติที่ยังไม่มีใครใช้กันเลยในตอนนี้ 
ผมเองไม่ควรบอกกับคุณเลยด้วยซ้ำ 
แต่นั่นแหละครับผมก็ยังจะบอกกับคุณอยู่ดี 
เพราะว่าผมเชื่อในเรื่องของ “การให้”
ผมคิดว่า…โอกาสที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจออนไลน์
ให้ประสบความสำเร็จในอนาคตคือ 
การสร้างเว็บไซต์หรือบล็อกเพื่อธุรกิจเครือข่าย  แต่อย่าเลือกหัวข้อเรื่องของ

"วิธีการทำธุรกิจเครือข่าย MLM มาเป็นหัวข้อหลักของคุณ"

เพราะอย่างที่ผมกล่าวเอาไว้  ก่อนหน้านี้แล้วว่า
มีผู้คนหลายร้อยคนที่ทำแบบนั้นกันอยู่แล้ว 
ด้วยความสัตย์จริงกับคุณแล้วผมเองก็ควรจะทำในสิ่งเดียวกัน
แม้ว่าเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้วของผม 
มีคู่แข่งใหญ่ ๆ อยู่แล้ว  ผมยังสามารถที่จะสร้างผลลัพธ์เป็นอันดับต้นๆได้
แต่ถ้าผมได้ทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป
และเลือกที่จะใช้หัวข้อหรือรูปแบบที่มีคู่แข่งในจำนวนที่น้อยกว่า
ซึ่งนั่นย่อมดีกว่าที่จะมี 500/500 ครับ
ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่มากกว่า  คุณควรเลือกช่องทางที่มีคู่แข่งขันที่น้อยกว่า
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าบริษัทธุรกิจเครือข่ายของคุณ  ขายวิตามินแบบเหลว 
คุณก็แค่อาจจะสร้างบล็อกหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับวิตามินแบบเหลว 
และสร้างเนื้อหาที่ดีเกี่ยวกับวิตามินแบบเหลว
ได้หลายร้อยหน้าและไม่ว่าคุณจะทำอย่างไรก็ตาม…

“จงอย่าได้กล่าวถึงโอกาสทางธุรกิจ
ชื่อของบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเลย
ไม่ว่าจะเป็นที่ใดบนเว็บไซต์ของคุณ”

แทนที่จะทำเช่นนั้นคุณควร Pre-sell
หรือนำเสนอผู้เยี่ยมชมของคุณด้วยเนื้อหาที่ดี 
และปล่อยให้พวกเขาเป็นฝ่ายถามคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณแทน 
เมื่อคุณทำเช่นนี้  คุณจะกลายเป็นผู้ถูกล่าแทนการเป็นผู้ไล่ล่า

นอกเหนือไปจากนั้น 
เว็บไซต์หรือบล็อกของคุณจะสามารถมีสร้างกระแสรายได้ 5-20 ช่องทาง 
เพื่อให้คุณสร้างรายได้แม้ในขณะที่ผู้คน  ยังไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณ 
หรือเข้าร่วมเป็นดาวน์ไลน์ของคุณ
มันยอดเยี่ยมไหมล่ะครับ?

โดยสรุปคือมันมีหลายวิธีที่จะใช้โปรโมทธุรกิจเครือข่ายของคุณทางออนไลน์ 
กุญแจที่จะไขสู่ความสำเร็จคือ 
การสร้างรูปแบบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมอยู่รอบ ๆ ผลิตภัณฑ์ของบริษัท 
ที่คุณจะสามารถทำให้ผู้คนสนใจในสิ่งที่คุณนำเสนอด้วยตัวเขาเอง 
และคุณก็จะสามารถสร้างรายได้หลากหลายช่องทางจากคนที่ไม่ได้เข้าร่วมธุรกิจกับคุณ

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
IDLine:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu
Blog:http://somphongcha.blogspot.com/
homepag:http://bit.ly/GoldCoffee

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีการเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ที่คน 99% โชคร้ายที่ไม่ได้รู้""
มูลค่า 3,500 บาท คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com

ดูโอกาสของOrgano Gold ที่นี่ http://www.kamolwech.com/ogw
LineShop https://shop.line.me/app/shop/end?shopId=56534

ทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ..



ทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ..

สวัสดีครับ

ทำไมผมเอาเรื่องนี้มาพูดขึ้นก่อน สิ่งอื่นๆ
ไม่ใช่เรื่องอื่นไม่สำคัญ แต่เรื่องนี้สำคัญที่สุด
ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร ขึ้นกับ ทัศนคติ
จะรุ่งเรืองหรือยากจน ก็อยู่ที่ทัศนคติของตัวคุณเอง หรือ Mindset
ขอแนะนำนะครับ "อย่าเชื่อ" ทุกอย่างที่ผมพูด
แต่ควรเอาไปพิจารณา อย่างถี่ถ้วน ว่าที่พูดไป มันจริงไหม
และจงพิสูจน์สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้นะครับ


การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือทัศนคตินั้นมี 3 ระดับ
1. ระดับล่างสุดคือเปลี่ยนเพราะกลัวถูกลงโทษ (compliance)
การเปลี่ยนแปลงเพราะเกิดจากกลัวจากผู้มีอำนาจ
เมื่อไม่มีผู้มีอำนาจแล้วพฤติกรรม ก็กลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้านี้
ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มาจากสำนึกข้างในจิตใจ
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ถาวร

2. ระดับกลางคือการเปลี่ยนตามพวกตามกลุ่ม (identification)
ระวัง การอยู่เป็นกลุ่มเป็นพวก ต้องเลือกพวกที่เราจะเข้ากลุ่มไว้ให้ดี
ถ้าเป็นกลุ่มที่ดี สร้างพลังบวกเยอะๆ คุณควรจะเอาตัวไปร่วมกับกลุ่มนั้น
แต่ถ้ากลุ่มนั้นมีแต่พลังลบ ควรหลบหนีห่างมาให้ไลมากที่สุด
จนบางครั้งผู้ประสบความสำเร็จบางคน เลือกที่จะเลิกกับภรรยาที่ให้พลังลบ
เพราะต้องการหาภรรยาใหม่ที่สร้างพลังบวกให้กับตนเอง
เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงข้อสามต่อไป

3. ระดับสูงสุดก็คือการเปลี่ยนแปลงที่มาจากสำนึกข้างใน(internalization)
จะเรียกว่า "การเห็นชอบด้วยตนเอง"
โดยการรวมรวมข้อมูล ปรับแนวความคิด และประเมินทัศนคตินั้นด้วยตนเอง
เห็น"ประโยชน์"จากการเปลี่ยนแปลงนั้น
คนที่เปลี่ยนพฤติกรรมในระดับนี้จึงจะเรียกว่าเปลี่ยนจริง
เพราะเป็นการเปลี่ยนจากเยื้องลึกข้างใน


การมีทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ

จำไว้คำหนึ่งว่า "รวยฟ้าฝ่า,รวยทางลัด"มันไม่มีจริง
ให้ไปถามผู้ที่ประสบความสำเร็จแทบทุกคนจะไม่เชื่อในเรื่องแบบนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องผ่านการ เรียนรู้ ทุ่มเท ปฏิบัติ ผ่านความยากลำบาก
ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จ ต้องรู้จักการเรียนรู้ ลงมือทำ และจริงจังกับมัน
และสิ่งที่ควรทำคือ

1.ควรพัฒนาทักษะตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ไอส์ไตน์ บอกไว้ว่า

"คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากเดิม
แต่ยังทำสิ่งเดิมอยู่ แล้วหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง คือ คนบ้า"


การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ความรู้ใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา
แต่เราจะพัฒนาตัวเองได้ง่ายที่สุดคือ การซื้อหนังสือมาอ่าน
ที่มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณทำอยู่
การเข้าคอร์สอบรมต่างๆ ที่เปิดกันอยู่เป็นประจำ
ทั้งการพูดโน้มน้าวใจ การพูดเพื่อปิดและปิดการขายทันยังทำงานประจำ
หรือการปลุกจิตใต้สำนึก เพื่อการประสบความสำเร็จ
เมื่อเรียนก็จงนำไปฝึกฝนให้เกิดเป็นทักษะเชี่ยวชาญ ชำนาญ และกลายเป็นนิสัย
ถ้ายังไม่พร้อมทุ่มเทในเรื่องเหล่านี้ ก็อย่าหวังถึงอนาคตที่ร่ำรวยเลยครับ

2.มีที่ปรึกษาที่รู้เรื่องนั้นๆ อย่างแท้จริง
มันจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดแล้ว กับการที่จะประสบความสำเร็จ
หาครูดีๆ ที่เก่งในเรื่องนั้นๆของคุณที่คุณจะทำ และในด้านที่คุณถนัดด้วย
จะหาได้ที่ไหนหรือครับ ก็คือผู้ประสบความสำเร็จแล้วในสิ่งนั้นไงครับ
หาตัวเขาแล้วไปขอให้เขาเป็นที่ปรึกษาให้ และมไต้องกลัวว่าเขาจะไม่ช่วยนะครับ
ผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วส่วนใหญ่มักมีจิตใจดีงามทุกคน
เขาจะแนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์และรวบลัดที่สุดให้คุณ
และคุณควรทำตามเขาโดย"ไม่มีข้อโต้แย้ง"ใดๆ
ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ เชื่อผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว คุณจะไม่ผิดหวังครับ
         
3.ร่างกายที่แข็งแรง
ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ ควรดูแลมันให้ดีเกิดวันใดวันหนึ่ง
คุณป่วยหนักจากการทำงาน คุณก็ไม่มีทางสู่ความสำเร็จได้
สิ่งใดที่มันดีต่อร่างกาย ควรหามาทานซะ ออกกำลังกายเป็นประจำ
ส่วนสิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ทำลายร่างกาย หากๆไว้บ้างก็ดีครับ
การที่ป่วยแต่ละครั้งมันไม่ได้มีเฉพาะผลเสียต่อร่างกายเท่า
เวลาที่สูญปล่าวไป แทนที่จะไปทำตามฝันกลับต้องมานอนบนเตียง
ถ้าร่างกายคุณแข็งแรงต่อให้คุณล้มเหลวซักกี่ครั้งคุณก็ยังสามารถลุกขึ้นมาได้เสมอ

4.สิ่งที่ต้องทุ่มเทให้คือ “เงิน” “เวลา” “แรงงาน"
มันคือปัจจัยแห่งความสำเร็จเลยทีเดียว จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไมได้เด็ดขาด
ยิ่งคุณลงทุน เงิน เวลา และแรงงานลงไปในระบบมากเท่าไหร่
ผลตอบแทนที่จะได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น
แล้วต้องคอยแบ่งผลกำไรที่ได้ นำเข้ามาใส่เข้าสู่ระบบให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ระบบนั้นจะช่วยเป็นเครื่องทุ่นแรงให้เราได้เป็นอย่างมาก
ทำให้ใช้เวลาน้อยลง และใช้แรงงาน น้อยลงไปด้วย
ควรวางแผนในการทำธุรกิจของคุณให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ
และจะต้องลงมือทำแบบสุดความสามารถมันจึงจะเกิดผลลัพธ์แบบชัดเจน


5.ความล้มเหลว "ไม่มี" อยู่จริง
ความล้มเหลวจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อคุณยอมรับว่ามันจริง
และล้มเลิกทำในสิ่งที่คุณมุ่งหวังไปเท่านั้น
แต่หากว่า คุณยังมุ่งมั่นที่จะทำมันอยู่
ความล้มเหลวนั้นเป็นเพียงความล้มเหลว"เพียงชั่วคราว"เท่านั้น
นั้นเป็นเพราะ แผนการที่คุณวางไว้นั้น ยังไม่ดีพอ
ควรกลับไปดูเป้าหมายอีกครั้ง และวางแผนใหม่ เพื่อให้ดีกว่าเดิม
โทมัส อันวา เอดิสัน ได้เรียนหยังสือในระบบจริงๆเพียงสามปี
แต่เขามุ่งมั่นจะพลิตหลอดไฟฟ้า เขาต้องลองแล้ว ลองอีก
เปลี่ยนตัวนำไหม เปลี่ยนระบบใหม่ "กว่าหมื่นครั้ง"
เพื่อให้ได้หลอดไฟฟ้าที่ใช้งานตามบ้านนี้ แค่การทดลองครั้งสุดท้าย

6.ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์"จินตนาการ"แล้วไปไม่ถึง
การตั้งเป้าหมาย อย่าให้มันมีลิมิต ตั้งให้ใหญ่เข้าไว้
"แม้คุณจะขว้างหินไปไม่ถึงดวงจันทร์
แต่ก็จะกลายเป็นดวงดาวที่อยู่รอบดวงจันทร์ได้"
ย้ำเป้าหมายนั้นกับตัวเองทุกวัน เขียนมันลงไป และชัดเจน
หลักการคือ ย่อยเป้าหมายที่ใหญ่นั้น ให้เล็กลง
เช่นตั้งเป้าใหญ่ไว้ ที่ 10 ปีจะมีเงินร้อยล้าน
คุณควรย่อยลงมาว่า 5 ปีต่อไปนี้จะต้องมีเท่าไหร่
3 ปี 1 ปี และ 1 เดือน
คุณต้องได้เดือนนี้เท่าไหร่ ถึงจะไปเป้าหมายที่ร้อยล้านได้
ค่อยๆย่อยมันลงไป และวางแผนที่จะทำมัน และลงมือทำ "ทันที"
อย่ากลัวการตั้งเป้าหมาย
ให้ตั้งเป้าหมายที่คุณไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะคุณทำได้
         
7.โอกาสเหมือน "สายลม" พัดไปมาตลอดเวลา
มันมีเพียงว่า คุณจะมอง "ลม" เห็นหรือไม่
โอกาสมีรอบตัวเราจริงๆ ที่ใดมี "ปัญหา" ที่นั้นย่อมมีโอกาส
"ไม่มีวิกฤติ ก็ไม่เกิดโอกาส" เจ้าสัวเจริญกล่าวไว้เมื่อนานมาแล้ว
คนเราส่วนใหญ่ มักจะเดินหนีปัญหา ทั้งที่ความจริงๆแล้ว
ผู้ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่
เขาจะมองปัญหาเป็นโอกาสที่เขาจะสร้างความร่ำรวยกับเขาได้
โอกาสทางธุรกิจเครือข่ายก็เช่นกัน มีมากมายจนไม่นับไม่ไหว
เกิดบริษัทใหม่ขึ้นทุกวัน ตายไปก็ทุกวัน
อย่าโดดลงไปทำธุรกิจ ทันที เมื่อคุณเห็นเพียงแค่โอกาส
แต่ศึกษา มันท่องแท้ แล้วจึงลงมือทำธุรกิจ

8.Power of Focus
งานใดสำคัญที่สุด ควรทำก่อนเป็นอย่างแรก
จะต้องรู้จักพิจารณาความสำคัญของงาน
จะต้องโฟกัสงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ
และอย่าทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
เพราะมีผู้พิสูจน์แล้วว่าการทำหลาย ๆอย่างพร้อมกัน
เทียบกับการทำงานงานทีละอย่างไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพ หรือปริมาณ
เพราะฉะนั้นคุณจะต้อง"โฟกัส"ทำไปทีละอย่าง
ถึงจะเกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
        
9.จงเป็นผู้ที่มีคุณธรรม และจรรยาบรรณ
คนที่แกล้งเป็นผู้มีคุณธรรม มักจะไม่สามารถ
ทำตัวเป็นผู้มีคุณธรรมได้ตลอดเวลา
และมักจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยั่งยืน
จะต้องมีจรรยาบรรณของการทำธุรกิจ เช่น การขายสินค้าต่ำกว่าทุน
ซึ่งในระยะยาวมันไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา
จะต้องเป็นคนที่พูดจริงทำจริง ไม่หลอกลวงคนอื่น
เพื่อได้เขาสมัครทำธุรกิจด้วย
เราจะต้องทำธุรกิจบนพื้นฐานของการให้

“การให้คือหัวใจของความสำเร็จในชีวิต” 

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
IDLine:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีเปลี่ยนชิวิตคุณมีชีวิตเป็นของตัวเอง ใน 72 ชั่วโมง ฟรี!!! "
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com

me!!!
 
Somphong Chanawong © 2010 | Designed by Chica Blogger | Back to top