ทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ..



ทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ..

สวัสดีครับ

ทำไมผมเอาเรื่องนี้มาพูดขึ้นก่อน สิ่งอื่นๆ
ไม่ใช่เรื่องอื่นไม่สำคัญ แต่เรื่องนี้สำคัญที่สุด
ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร ขึ้นกับ ทัศนคติ
จะรุ่งเรืองหรือยากจน ก็อยู่ที่ทัศนคติของตัวคุณเอง หรือ Mindset
ขอแนะนำนะครับ "อย่าเชื่อ" ทุกอย่างที่ผมพูด
แต่ควรเอาไปพิจารณา อย่างถี่ถ้วน ว่าที่พูดไป มันจริงไหม
และจงพิสูจน์สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้นะครับ


การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือทัศนคตินั้นมี 3 ระดับ
1. ระดับล่างสุดคือเปลี่ยนเพราะกลัวถูกลงโทษ (compliance)
การเปลี่ยนแปลงเพราะเกิดจากกลัวจากผู้มีอำนาจ
เมื่อไม่มีผู้มีอำนาจแล้วพฤติกรรม ก็กลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้านี้
ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มาจากสำนึกข้างในจิตใจ
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ถาวร

2. ระดับกลางคือการเปลี่ยนตามพวกตามกลุ่ม (identification)
ระวัง การอยู่เป็นกลุ่มเป็นพวก ต้องเลือกพวกที่เราจะเข้ากลุ่มไว้ให้ดี
ถ้าเป็นกลุ่มที่ดี สร้างพลังบวกเยอะๆ คุณควรจะเอาตัวไปร่วมกับกลุ่มนั้น
แต่ถ้ากลุ่มนั้นมีแต่พลังลบ ควรหลบหนีห่างมาให้ไลมากที่สุด
จนบางครั้งผู้ประสบความสำเร็จบางคน เลือกที่จะเลิกกับภรรยาที่ให้พลังลบ
เพราะต้องการหาภรรยาใหม่ที่สร้างพลังบวกให้กับตนเอง
เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงข้อสามต่อไป

3. ระดับสูงสุดก็คือการเปลี่ยนแปลงที่มาจากสำนึกข้างใน(internalization)
จะเรียกว่า "การเห็นชอบด้วยตนเอง"
โดยการรวมรวมข้อมูล ปรับแนวความคิด และประเมินทัศนคตินั้นด้วยตนเอง
เห็น"ประโยชน์"จากการเปลี่ยนแปลงนั้น
คนที่เปลี่ยนพฤติกรรมในระดับนี้จึงจะเรียกว่าเปลี่ยนจริง
เพราะเป็นการเปลี่ยนจากเยื้องลึกข้างใน


การมีทัศนคติของผู้ประสบความสำเร็จ

จำไว้คำหนึ่งว่า "รวยฟ้าฝ่า,รวยทางลัด"มันไม่มีจริง
ให้ไปถามผู้ที่ประสบความสำเร็จแทบทุกคนจะไม่เชื่อในเรื่องแบบนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องผ่านการ เรียนรู้ ทุ่มเท ปฏิบัติ ผ่านความยากลำบาก
ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จ ต้องรู้จักการเรียนรู้ ลงมือทำ และจริงจังกับมัน
และสิ่งที่ควรทำคือ

1.ควรพัฒนาทักษะตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ไอส์ไตน์ บอกไว้ว่า

"คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากเดิม
แต่ยังทำสิ่งเดิมอยู่ แล้วหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง คือ คนบ้า"


การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ความรู้ใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา
แต่เราจะพัฒนาตัวเองได้ง่ายที่สุดคือ การซื้อหนังสือมาอ่าน
ที่มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณทำอยู่
การเข้าคอร์สอบรมต่างๆ ที่เปิดกันอยู่เป็นประจำ
ทั้งการพูดโน้มน้าวใจ การพูดเพื่อปิดและปิดการขายทันยังทำงานประจำ
หรือการปลุกจิตใต้สำนึก เพื่อการประสบความสำเร็จ
เมื่อเรียนก็จงนำไปฝึกฝนให้เกิดเป็นทักษะเชี่ยวชาญ ชำนาญ และกลายเป็นนิสัย
ถ้ายังไม่พร้อมทุ่มเทในเรื่องเหล่านี้ ก็อย่าหวังถึงอนาคตที่ร่ำรวยเลยครับ

2.มีที่ปรึกษาที่รู้เรื่องนั้นๆ อย่างแท้จริง
มันจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดแล้ว กับการที่จะประสบความสำเร็จ
หาครูดีๆ ที่เก่งในเรื่องนั้นๆของคุณที่คุณจะทำ และในด้านที่คุณถนัดด้วย
จะหาได้ที่ไหนหรือครับ ก็คือผู้ประสบความสำเร็จแล้วในสิ่งนั้นไงครับ
หาตัวเขาแล้วไปขอให้เขาเป็นที่ปรึกษาให้ และมไต้องกลัวว่าเขาจะไม่ช่วยนะครับ
ผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วส่วนใหญ่มักมีจิตใจดีงามทุกคน
เขาจะแนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์และรวบลัดที่สุดให้คุณ
และคุณควรทำตามเขาโดย"ไม่มีข้อโต้แย้ง"ใดๆ
ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ เชื่อผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว คุณจะไม่ผิดหวังครับ
         
3.ร่างกายที่แข็งแรง
ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ ควรดูแลมันให้ดีเกิดวันใดวันหนึ่ง
คุณป่วยหนักจากการทำงาน คุณก็ไม่มีทางสู่ความสำเร็จได้
สิ่งใดที่มันดีต่อร่างกาย ควรหามาทานซะ ออกกำลังกายเป็นประจำ
ส่วนสิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ทำลายร่างกาย หากๆไว้บ้างก็ดีครับ
การที่ป่วยแต่ละครั้งมันไม่ได้มีเฉพาะผลเสียต่อร่างกายเท่า
เวลาที่สูญปล่าวไป แทนที่จะไปทำตามฝันกลับต้องมานอนบนเตียง
ถ้าร่างกายคุณแข็งแรงต่อให้คุณล้มเหลวซักกี่ครั้งคุณก็ยังสามารถลุกขึ้นมาได้เสมอ

4.สิ่งที่ต้องทุ่มเทให้คือ “เงิน” “เวลา” “แรงงาน"
มันคือปัจจัยแห่งความสำเร็จเลยทีเดียว จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไมได้เด็ดขาด
ยิ่งคุณลงทุน เงิน เวลา และแรงงานลงไปในระบบมากเท่าไหร่
ผลตอบแทนที่จะได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น
แล้วต้องคอยแบ่งผลกำไรที่ได้ นำเข้ามาใส่เข้าสู่ระบบให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ระบบนั้นจะช่วยเป็นเครื่องทุ่นแรงให้เราได้เป็นอย่างมาก
ทำให้ใช้เวลาน้อยลง และใช้แรงงาน น้อยลงไปด้วย
ควรวางแผนในการทำธุรกิจของคุณให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ
และจะต้องลงมือทำแบบสุดความสามารถมันจึงจะเกิดผลลัพธ์แบบชัดเจน


5.ความล้มเหลว "ไม่มี" อยู่จริง
ความล้มเหลวจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อคุณยอมรับว่ามันจริง
และล้มเลิกทำในสิ่งที่คุณมุ่งหวังไปเท่านั้น
แต่หากว่า คุณยังมุ่งมั่นที่จะทำมันอยู่
ความล้มเหลวนั้นเป็นเพียงความล้มเหลว"เพียงชั่วคราว"เท่านั้น
นั้นเป็นเพราะ แผนการที่คุณวางไว้นั้น ยังไม่ดีพอ
ควรกลับไปดูเป้าหมายอีกครั้ง และวางแผนใหม่ เพื่อให้ดีกว่าเดิม
โทมัส อันวา เอดิสัน ได้เรียนหยังสือในระบบจริงๆเพียงสามปี
แต่เขามุ่งมั่นจะพลิตหลอดไฟฟ้า เขาต้องลองแล้ว ลองอีก
เปลี่ยนตัวนำไหม เปลี่ยนระบบใหม่ "กว่าหมื่นครั้ง"
เพื่อให้ได้หลอดไฟฟ้าที่ใช้งานตามบ้านนี้ แค่การทดลองครั้งสุดท้าย

6.ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์"จินตนาการ"แล้วไปไม่ถึง
การตั้งเป้าหมาย อย่าให้มันมีลิมิต ตั้งให้ใหญ่เข้าไว้
"แม้คุณจะขว้างหินไปไม่ถึงดวงจันทร์
แต่ก็จะกลายเป็นดวงดาวที่อยู่รอบดวงจันทร์ได้"
ย้ำเป้าหมายนั้นกับตัวเองทุกวัน เขียนมันลงไป และชัดเจน
หลักการคือ ย่อยเป้าหมายที่ใหญ่นั้น ให้เล็กลง
เช่นตั้งเป้าใหญ่ไว้ ที่ 10 ปีจะมีเงินร้อยล้าน
คุณควรย่อยลงมาว่า 5 ปีต่อไปนี้จะต้องมีเท่าไหร่
3 ปี 1 ปี และ 1 เดือน
คุณต้องได้เดือนนี้เท่าไหร่ ถึงจะไปเป้าหมายที่ร้อยล้านได้
ค่อยๆย่อยมันลงไป และวางแผนที่จะทำมัน และลงมือทำ "ทันที"
อย่ากลัวการตั้งเป้าหมาย
ให้ตั้งเป้าหมายที่คุณไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะคุณทำได้
         
7.โอกาสเหมือน "สายลม" พัดไปมาตลอดเวลา
มันมีเพียงว่า คุณจะมอง "ลม" เห็นหรือไม่
โอกาสมีรอบตัวเราจริงๆ ที่ใดมี "ปัญหา" ที่นั้นย่อมมีโอกาส
"ไม่มีวิกฤติ ก็ไม่เกิดโอกาส" เจ้าสัวเจริญกล่าวไว้เมื่อนานมาแล้ว
คนเราส่วนใหญ่ มักจะเดินหนีปัญหา ทั้งที่ความจริงๆแล้ว
ผู้ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่
เขาจะมองปัญหาเป็นโอกาสที่เขาจะสร้างความร่ำรวยกับเขาได้
โอกาสทางธุรกิจเครือข่ายก็เช่นกัน มีมากมายจนไม่นับไม่ไหว
เกิดบริษัทใหม่ขึ้นทุกวัน ตายไปก็ทุกวัน
อย่าโดดลงไปทำธุรกิจ ทันที เมื่อคุณเห็นเพียงแค่โอกาส
แต่ศึกษา มันท่องแท้ แล้วจึงลงมือทำธุรกิจ

8.Power of Focus
งานใดสำคัญที่สุด ควรทำก่อนเป็นอย่างแรก
จะต้องรู้จักพิจารณาความสำคัญของงาน
จะต้องโฟกัสงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ
และอย่าทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
เพราะมีผู้พิสูจน์แล้วว่าการทำหลาย ๆอย่างพร้อมกัน
เทียบกับการทำงานงานทีละอย่างไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพ หรือปริมาณ
เพราะฉะนั้นคุณจะต้อง"โฟกัส"ทำไปทีละอย่าง
ถึงจะเกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
        
9.จงเป็นผู้ที่มีคุณธรรม และจรรยาบรรณ
คนที่แกล้งเป็นผู้มีคุณธรรม มักจะไม่สามารถ
ทำตัวเป็นผู้มีคุณธรรมได้ตลอดเวลา
และมักจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยั่งยืน
จะต้องมีจรรยาบรรณของการทำธุรกิจ เช่น การขายสินค้าต่ำกว่าทุน
ซึ่งในระยะยาวมันไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มา
จะต้องเป็นคนที่พูดจริงทำจริง ไม่หลอกลวงคนอื่น
เพื่อได้เขาสมัครทำธุรกิจด้วย
เราจะต้องทำธุรกิจบนพื้นฐานของการให้

“การให้คือหัวใจของความสำเร็จในชีวิต” 

สมพงษ์ ชนะวงษ์

"ความสำเร็จของคุณ" คือความภูมิใจของเรา

อย่าได้เกรงใจ ติดต่อผมได้ทันที ที่นี่...
IDLine:somphong_0836174620
Email: somphong.chanawong@gmail.com
Facebook:http://on.fb.me/1wfiyLu

ดาวน์โหลดฟรี คัมภีร์ :
"วิธีเปลี่ยนชิวิตคุณมีชีวิตเป็นของตัวเอง ใน 72 ชั่วโมง ฟรี!!! "
คลิกที่นี่
http://freelife.getresponsepages.com

me!!!

0 ความคิดเห็น:

 
Somphong Chanawong © 2010 | Designed by Chica Blogger | Back to top